ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/331982

เครือข่ายยางฯ7จว.ใต้ตั้งวงถกช่วยเหลือเกษตกร
8 เม.ย.61 ที่ห้องประชุมสำนักงานการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพารา เขตภาคใต้ตอนกลาง 7 จังหวัด จัดให้มีการประชุมปรึกษาหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา โดยเฉพาะการหาแนวทางบริการจัดการงบประมาณ 2,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลจัดสรรมาเพื่อเป็นการกระตุ้นราคายาง ผ่านสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั่วปะเทศ จำนวน 963 แห่ง โดยมี นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเขตภาคใต้ตอนกลาง นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย คณะกรรมการสถาบันฯ และผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย ภาคใต้ตอนกลาง 7 จังหวัด ร่วมประชุม
นายถนอมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ทางสถาบันเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางเขตภาคใต้ ตอนกลาง นัดประชุมวาระเร่งด่วน เพื่อพิจารณา 3 วาระ วาระแรก เรื่องการใช้ปุ๋ยในสงเคราะห์การปลูกแซม ปี 2561 ซึ่งอยู่ในช่วงต้นฝนและปลายฝนโดยขณะนี้เกษตรกรรอรับปุ๋ยในช่วงต้นฝน แต่ติดปัญหาอยู่ที่การยางแห่งประเทศไทย ติดการประมูลซึ่งมีการร้องเรียนอยู่ในกรมบัญชีกลางซึ่งคาดว่าการใช้ปุ๋ยหากใช้วิธีการประมูลแบบนี้จะล่าช้า ดังนั้นเกษตรกรฯจึงได้ประชุมมีมติว่าหากมีการยกเลิกการประมูล หรือมีผลในทางลบของคำอุทธรณ์ ก็ต้องจ่ายเป็นเงินอย่างเร่งด่วน และหากเกิดปัญหาครั้งต่อไปให้ใช้วิธีการประมูลระดับเขต วาระสอง เรื่องมาตรการกระตุ้นราคายาง โดยใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการโยนหินถามทางว่า เมื่อได้เงิน 2,000 ล้านบาท มาแก้ไขปัญหายางพารา โดยผ่านสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจะทำอย่างไร ทางสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเขตภาคใต้ตอนกลางได้มีการประชุมเพื่อหามติร่วมกันต่อไป และสาระที่สาม การเข้าแก้ปัญหาให้เขตถึง มาตรา 49 วงเล็บต่างๆ ที่เกษตรกร สถาบันเกษตรกร หรือผู้ประกอบกิจการยางที่จะเข้าถึงทำอย่างไรให้เงินตามมาตร 49 เข้าถึงเกษตรกรได้ทั้งระบบ มารักษาเสถียรภาพราคายาง พัฒนายางทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
นายถนอมเกียรติ กล่าวอีกว่า เงิน 2,000 ล้านบาท นำไปใช้กับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางพาราชี้นำให้ยางอยู่ในราคากิโลกรัมละ 55บาท ตามคำปรารภของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่าจะให้ราคายางพาราขึ้นในเดือน พ.ค. – มิ.ย.ถึงกิโลกรัมละ 55 บาท งบก้อนดังกล่าวจะนำไปใช้กับสถาบันเกษตรกรสวนยางพาราทั่วประเทศ จำนวน 963 แห่งทั่วประเทศ เงินจำนวน 2 พันล้านบาท หากนำไปเปรียบเทียบกับยางทั่วประเทศ 4 ล้านตัน คูณด้วยจำนวน กก.50 บาท ถือว่าเป็นเศษเสี้ยว ไม่มีผลต่อตลาด ทุกอย่างต้องมีการทดลองก่อนเหมือนกัน
“ที่ผ่านมานโยบายการแก้ปัญหายางพารา เป็นนโยบายที่ดีแต่ที่ไม่สำเร็จ เนื่องจากแต่ละนโยบายไม่มีการเชื่อมต่อซึ่งการและกัน ซึ่งการลดพื้นที่พร้อมกับการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ หาก 2 นโยบายดังกล่าวสัมพันธ์กัน ก็หมายถึงว่า งบ 2 พันล้านบาท ให้มาจริงๆ ให้ต่อยอดในเรื่องของการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ทำอย่างไรให้ยาง 2 แสนตัน ได้ใช้จริง หากประกาศซื้อก็ต้องประกาศซื้อทั่วประเทศในปริมาณที่สามารถตอบโจทย์ในช่วงฤดูการเปิดกรีดได้ โดยเกษตรกรคาดหวังว่าในช่วงเปิดกรีด เดือน พ.ค.มีโครงการที่จะใช้ในหน่วยงานภาครัฐ มีการซื้อยางก็จะเป็นผลดีในการขับเคลื่อนราคายาง” นายถนอมเกียรติ กล่าว