ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/315490

pet care : ปากสุนัข ! (ตอนที่ 2)
สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณผู้อ่านคงได้รับสาระเรื่องการดูแลช่องปากของสุนัข และความจำเป็นในการขูดหินปูนไปแล้ว วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีการเตรียมตัวก่อนรับการขูดหินปูนกับการดูแลช่องปากสุนัขด้วยตัวเองกันครับ
● เมื่อต้องการให้สุนัขได้รับการขูดหินปูน เราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เมื่อเจ้าของตรวจช่องปากของสุนัขแล้วพบว่า มีหินปูน และต้องการขูดหินปูน ขั้นตอนที่ต้องทำก็คือ
1. พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกาย
2.สัตวแพทย์จะทำการประเมินสภาพช่องปากของสุนัขอย่างคร่าวๆ และตรวจร่างกายโดยทั่วไปเพื่อเตรียมความพร้อม
3.สัตวแพทย์จะทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพ ว่าสุขภาพแข็งแรง เหมาะสมที่จะได้รับการวางยาสลบและขูดหินปูนหรือไม่ (หากจำเป็น อาจต้องทำการ X-ray ช่องอกเพื่อดูความผิดปกติของปอดและหัวใจด้วย)
4.เมื่อประเมินแล้ว พบว่าสัตว์มีความพร้อมต่อการวางยาสลบและขูดหินปูน ก็จะนัดหมาย “วันขึ้นเตียง” และแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนวางยาสลบ
5.ก่อนการวางยาสลบ สัตว์จะต้อง “งดน้ำ และอาหาร12 ชั่วโมง” ก่อนเวลานัด เนื่องจากการวางยาสลบนั้น จะทำให้สุนัขสูญเสียความสามารถในการไอและการกลืน เพราะหากมีอาหารอยู่ในกระเพาะอาหาร อาจเกิดการสำลักเข้าปอด ทำให้สัตว์เสียชีวิตได้
ในการวางยาสลบ สัตวแพทย์ควรใช้ “ยาดมสลบ” หรือยาสลบชนิดแก๊ส เพื่อให้สลบตลอดการขูดหินปูน เนื่องจากยาสลบชนิดดมนั้นมีความปลอดภัยมากกว่ายาสลบชนิดฉีด ยาดมสลบจะอาศัยปอดในการกำจัดยาเป็นหลัก ทำให้ควบคุมระดับความตื้นและลึกของการสลบได้ดีกว่ายาสลบชนิดฉีด ซึ่งยาสลบชนิดฉีดนั้นจะถูกทำให้หมดฤทธิ์ที่ตับ ขับออกทางไต ซึ่งต้องพึ่งพาร่างกายของสัตว์มากกว่ายาดมสลบ รวมถึง “การสอดท่อช่วยหายใจ” (ในการนำยาสลบเข้าปอด) ยังเป็นการป้องกันไม่ให้ละอองน้ำและละอองจากการขูดหินปูนประเด็นเข้าหลอดลมอีกด้วย
6.เมื่อขูดหินปูนเสร็จแล้ว สัตวแพทย์จะทำการ “ขัดฟันด้วยผงขัดฟัน” เพื่อลบรอยขีดข่วนที่เกิดจากเครื่องมือที่ใช้ในการขูดหินปูน เพื่อให้ผิวฟันเรียบ ลดการสะสมของคราบอาหารและจุลินทรีย์ที่ผิวฟัน เพราะเมื่อคราบจุลินทรีย์ที่สะสมที่ผิวฟันชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็จะเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุในน้ำลายเกิดเป็นหินปูนขึ้นอีกได้
ในกรณีที่ฟันโยกมากๆ สัตวแพทย์อาจทำการถอนฟันนั้นออก และทำการเย็บเหงือกเพื่อปิดรอยแผลที่เหงือกซึ่งอาจนำเชื้อโรคเข้าสู่โพรงประสาทฟันที่ขากรรไกร
ในกรณีที่มีการถอนฟัน หรือเหงือกอักเสบมาก สัตวแพทย์มักจะจ่ายยาปฏิชีวนะและยาลดอักเสบให้กินติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์
ภายหลังถอนฟันแล้วควรให้สุนัขกินอาหารนิ่มๆ ประมาณ2 สัปดาห์ และให้กินน้ำเยอะๆ หลังอาหารด้วย หรือใช้กระบอกฉีดยา ฉีดน้ำสะอาดไปที่เหงือกหลังกินอาหาร เพื่อลดปริมาณเศษอาหารที่จะติดตามปมไหม และภายหลังถอนฟันประมาณ 1 เดือน เจ้าของควรเริ่มหัดให้สุนัขยอมรับการแปรงฟัน และทำการแปรงฟันให้แก่สุนัขวันละ 1 ครั้ง ด้วยครับ
● เจ้าของควรดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขด้วยตนเองได้อย่างไร
เจ้าของสามารถดูแลสุขภาพช่องปากสุนัขด้วยตนเองได้หลายวิธี ได้แก่
– การแปรงฟันให้สุนัข
– การให้สุนัขกินอาหารที่มีความสามารถในการขัดฟัน
– ให้เล่นของเล่นที่มีคุณสมบัติช่วยขัดฟัน
– ในกรณีที่สุนัขมีอายุมากเจ้าของควรหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นในการกิน การเคี้ยว และในช่องปาก โดยควรเปิดปากสุนัขดู เพื่อตรวจดูว่ามีหินปูน แผล หรือก้อนเนื้องอกหรือไม่ ซึ่งควรทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพราะหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว
● จำเป็นต้องแปรงฟันให้แก่สุนัขหรือไม่
เจ้าของควรทำการแปรงฟันให้แก่สุนัข เนื่องจากการแปรงฟันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดคราบอาหาร และคราบจุลินทรีย์ที่มาสะสมบนฟัน ซึ่งคราบอาหาร และคราบจุลินทรีย์หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุในน้ำลายกลายเป็นหินปูน โดยควรแปรงฟันหลังกินอาหารหรืออย่างน้อยวันละครั้งครับ
เรื่องของช่องปากสุนัข ยังไม่จบนะครับ สัปดาห์หน้า เรามาทำความเข้าใจเรื่องการดูแลช่องปากสุนัขและการแปรงฟันกันครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย