ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/332531
x
‘สมคิด’จี้ปฏิรูปใหญ่ภาคเกษตร มุ่งเน้น5มิติเสริมจุดแข็งเศรษฐกิจประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้ว่าเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยดีขึ้น แต่สิ่งที่เป็นรากฐานสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ ความยากจน โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งเป็นทรัพย์สินสำคัญของประเทศ เราเป็นประเทศเกษตรกรรม ที่ผ่านมาเกษตรกรรมเราไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ส่วนแบ่ง GDP น้อยเกินไป ไม่ถึงร้อยละ 10 แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในภาคเกษตรกรรม หากเรายังไม่ทำอะไร คนส่วนใหญ่ จะจนลงเรื่อยๆ สังคมจะอยู่ไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนภาคเกษตรให้เข้มแข็ง ทันสมัย เกษตรกรรุ่นใหม่อยู่กับเกษตรกรรม ต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่โดยเน้น 5 มิติ ดังนี้
1.ให้ยึดศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักดำรงชีพ ปลูกฝังให้ซึมลึกในใจเกษตรกร 2.ไม่เอาการผลิตเป็นตัวนำ เอาการตลาดเป็นตัวนำ เป็นมิติใหญ่ เราต้องช่วยคิดให้ครบวงจร ข้อมูลต้องมีก่อน ทำอย่างไรสินค้าที่ปลูกให้ขายได้ เกษตรกรไม่อยู่ในสถานะที่เสี่ยงได้ 3.เกษตรกรอ่อนเเอจะไม่สามารถทำได้ ต้องให้ความรู้ใหม่แก่เค้า มีสินเชื่อสนับสนุน พร้อมให้ความรู้และโอกาส ตั้งแต่การผลิตจนถึงการตลาด สร้าง Smart Farmer ขึ้นมา โดยมีคนอยู่ 1 กลุ่มจะรับสิ่งใหม่ๆ ก่อนใช้หลัก Innovation Adoption ต้องเลือกกลุ่มเรียนรู้เร็วเป็นตัวนำการเปลี่ยนแปลงในชุมชน เกิดการกระจายของ Innovation สินเชื่อต้องถึง ทำต้นทุน ดอกเบี้ยเงินกู้และปุ๋ย/ปัจจัยการผลิตให้ต่ำ และที่สำคัญคือเรื่องเทคโนโลยีต้องมี และเปลี่ยนความคิดเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการให้ได้ 4.e-commerce สินค้าเกษตร ต้องผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ปัจจุบันการค้าไม่มีพรมแดนแล้ว ต้องเชื่อมโยงตลาดโลกให้ถึงกลุ่มเกษตรกรหรือวิสาหกิจชุมชนในระดับพื้นที่ให้ได้ จากนั้น Logistic จะตามมาเอง 5.การท่องเที่ยวและบริการ การเกษตรต้องเชื่อมโยงกับท่องเที่ยวให้ได้ นโยบายท่องเที่ยวเมืองรอง และท่องเที่ยวชุมชน การเกษตรและสินค้าวิสาหกิจชุมชนจะเป็นจุดขายที่สำคัญ จะมีการเชื่อมต่อคมนาคมที่สะดวกเช่นรถไฟความเร็วสูงหรือทางคู่ จากเมืองหลักให้ถึงเมืองรอง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยว
นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ต้องเป็นโค้ชในการขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร 20 โครงการ ในงบกลางปี 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งสอดรับกับโครงการไทยนิยมยั่งยืนที่กำลังจะเกิดขึ้น และจะต้องใช้การตลาดนำการผลิต เพื่อความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต