แพทย์เผย ‘วัคซีนไข้เลือดออก…เรื่องจริงที่ควรรู้’ เพื่อเป็นแนวทางการรักษาที่คนไข้ควรรู้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/316270

แพทย์เผย ‘วัคซีนไข้เลือดออก...เรื่องจริงที่ควรรู้’  เพื่อเป็นแนวทางการรักษาที่คนไข้ควรรู้

แพทย์เผย ‘วัคซีนไข้เลือดออก…เรื่องจริงที่ควรรู้’ เพื่อเป็นแนวทางการรักษาที่คนไข้ควรรู้

วันพฤหัสบดี ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ศ.นพ.ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยจัดประชุมวิชาการวาระพิเศษเรื่อง “วัคซีนไข้เลือดออก…ที่นี่มีคำตอบ” โดยมี ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วย ศ.พญ.นิจศรี ชาญณรงค์ประธานคณะกรรมการประชุมวิชาการประจำปี 2559-2562 ณ ห้องประชุม1301 ชั้น 13 โซน C อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ภายหลังการประชุม ศ.นพ.ธีระพงษ์ตัณฑวิเชียร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้บรรยายหัวข้อ “วัคซีนไข้เลือดออก…เรื่องจริงที่ควรรู้” คุณหมอกล่าวว่า ปัจจุบันมีวัคซีนไข้เลือดออก ที่ถูกนำมาใช้แล้ว คือวัคซีนของบริษัท ซาโนฟี ปาสเตอร์ ประเทศฝรั่งเศส ชื่อ เดงกาเซีย วัคซีนไข้เลือดออก (DengvaxiaTM) เป็นวัคซีนทำจากไวรัสเชื้อเป็นลูกผสมไข้เหลืองกับเดงกี่สายพันธุ์1, 2, 3, 4 โดยแนะนำให้ฉีดในช่วงอายุ 9-45 ปีเนื่องจากมีข้อมูลใหม่ เพื่อเป็นแนวทางการรักษาที่คนไข้ควรรู้

-จากการศึกษา ในอาสาสมัครอายุ 9-16 ปี พบว่าวัคซีนไข้เลือดออกมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ร้อยละ 65 ป้องกันการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออกได้ร้อยละ 80.8 และป้องกันไข้เลือดออกรุนแรงได้ร้อยละ 93.2 การให้วัคซีนแก่ผู้ที่เคยมีการติดเชื้อมาก่อนพบว่าสามารถป้องกันโรคได้ร้อยละ 82 แต่การให้วัคซีนแก่ผู้ที่ไม่เคยมีการติดเชื้อมาก่อนพบว่าป้องกันโรคได้เพียงร้อยละ 52

-ผู้ผลิตได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อศึกษาผลของการติดเชื้อก่อนการฉีดวัคซีน โดยการตรวจเลือดวิธีใหม่จากเลือดของอาสาสมัครจำนวน 3,300 ราย พบว่าการให้วัคซีนแก่อาสาสมัครอายุ 9-16 ปี ที่เคยมีการติดเชื้อมาก่อนสามารถป้องกันการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออก และการป่วยไข้เลือดออกรุนแรงใกล้เคียงกับการศึกษาเดิม แต่การให้วัคซีนแก่อาสาสมัครอายุ 9-16 ปีที่ไม่เคยมีการติดเชื้อมาก่อน พบว่า เมื่อฉีดวัคซีนแล้วมีความเสี่ยงต่อการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออกมากขึ้น 1.4 เท่า และเสี่ยงต่อการเป็นไข้เลือดออกรุนแรงเมื่อเทียบกับอาสาสมัครที่ไม่ได้รับวัคซีน แต่พบว่าผู้ที่เป็นไข้เลือดออกรุนแรงทั้งหมดไม่มีภาวะช็อกหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ จากผลการศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนยังคงมีประโยชน์ในการป้องกันโรค ลดการนอนโรงพยาบาลและลดความรุนแรงของโรคในผู้ที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน แต่พบว่าผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อนเมื่อได้รับวัคซีนนี้แล้วอาจจะมีความเสี่ยงต่อการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น ดังนั้นการตัดสินใจฉีดวัคซีนจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น แพทย์ควรมีการให้คำแนะนำถึงประโยชน์และความเสี่ยงของวัคซีนให้ชัดเจนแก่ผู้รับบริการก่อนที่จะให้วัคซีนเพื่อให้ผู้รับบริการพิจารณาตัดสินใจเลือกที่จะฉีดวัคซีนหรือไม่

-การวิเคราะห์ข้อมูลเดิมจากอาสาสมัครมากกว่า 30,000 ราย พบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนและป่วยต้องนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออกมีความรุนแรงของโรคไม่แตกต่างจากผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน การศึกษาใหม่มีจำนวนผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลเพราะไข้เลือดออกค่อนข้างน้อย จึงไม่เห็นความแตกต่างของความรุนแรงของโรค

-การตรวจเลือดก่อนฉีดวัคซีนไข้เลือดออกเพื่อดูว่าเคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่ด้วยวิธีที่ใช้ในเวชปฏิบัติทั่วไปมักไม่มีความไวเพียงพอและไม่มีการศึกษาว่าชุดตรวจที่มีใช้ในปัจจุบันชนิดใดมีความแม่นยำ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ทำการตรวจเลือดก่อนฉีดวัคซีนหากไม่มีชุดตรวจที่เหมาะสม นอกจากนี้ควรซักประวัติการเคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อนเสมอ เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินประโยชน์และความเสี่ยงต่อไป

-ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะพิจารณาระหว่างความเสี่ยงกับประโยชน์ในผู้ที่ได้รับวัคซีนไข้เลือดออกมาก่อนแต่ยังฉีดไม่ครบ3 เข็ม ควรถามประวัติการป่วยไข้เลือดออกในอดีต หากเคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อนแนะนำให้ฉีดต่อไปจนครบ 3 เข็ม แต่ถ้าไม่มีประวัติเคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อนหรือไม่ทราบประวัติการเป็นไข้เลือดออก ผู้รับบริการควรได้รับข้อมูลเพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงหากฉีดครบ 3 เข็ม ก่อนตัดสินใจว่าจะฉีดต่อจนครบหรือไม่ แต่หากผู้นั้นอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดสูงซึ่งอนุมานได้ว่าคนส่วนใหญ่น่าจะมีการติดเชื้อมาก่อนแล้วการฉีดวัคซีนให้ครบ 3 เข็ม น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า

ที่สำคัญ คุณหมอกล่าวว่า ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การป้องกันยุงกัด การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมเมื่อมีอาการสงสัยไข้เลือดออกไม่ว่าเคยได้รับวัคซีนมาก่อนหรือไม่ก็ตาม

ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และศ.พญ.นิจศรี ชาญณรงค์

ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และศ.พญ.นิจศรี ชาญณรงค์

Leave a comment