ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/334436

ชายคาพระพิรุณ : ยกระดับสินค้าเกษตร…สู่ตลาดโลก
“ขุนเกษตรา”…รายงานตัว นำเรื่องราวภายใต้ชายคาพระพิรุณในรอบสัปดาห์มาเล่าสู่กันฟังเช่นเคย…ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา หลายคนเดินทางออกสู่ต่างจังหวัดกลับภูมิลำเนา ต้องยอมรับว่าเกือบทุกพื้นที่ของประเทศไทยร้อนระอุ ชนิดน้ำสงกรานต์สาดชุ่มฉ่ำสักเพียงใดก็ไม่ทำให้คลายร้อนลงได้….ถึงจะเป็นวันหยุดยาว แต่หลายหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ก็เปิดให้บริการประชาชนเข้าไปศึกษาเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกฤษฎา บุญราช ก็เดินทางไปดูงานตลาดกลางสินค้าเกษตรที่ประเทศออสเตรเลีย ณ ตลาดเกษตร Flemington ซึ่งเป็นตลาดขายส่งและขายปลีกผลิตผลทางการเกษตรที่สำคัญของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่เกษตรกรนำมาขายเองโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีผลไม้เขตร้อน เช่น มะม่วง ส้ม สับปะรด แตงโม กล้วย ลำไย เมื่อดูจากบรรดาผลไม้ที่วางขายแล้วก็น่าจะเข้าทางบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงมหาชนก เนื่องจากมีความต้องการสูง และฤดูกาลผลิตของออสเตรเลียไม่ตรงกับฤดูกาลผลิตของประเทศไทย โดยทราบว่าขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ยื่นคำขออนุญาตและข้อมูลทางเทคนิคไปแล้ว คาดว่าภายในปี 2561 นี้ เราจะเปิดตลาดมะม่วงที่ออสเตรเลียได้แน่นอน…ซึ่งหากสามารถส่งออกผลไม้ไปออสเตรเลียได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะคุณภาพสินค้าของเราก็ไม่ได้แพ้ใครในโลก เกษตรกรไทยเก่งผลิต อยากได้คุณภาพแบบไหนทำได้หมด แต่ไม่เก่งเรื่องตลาด หากได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเต็มกำลังก็จะทำให้เกษตรกรมีโอกาสทางการตลาดมากขึ้น…
สินค้าเกษตรอีกชนิดหนึ่งที่ถูกยกระดับมาตรฐานสร้างความฮือฮาในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ “ปลาร้า” ครับมันคือเรื่องจริง เราอยู่ในยุคที่ปลาร้าต้องมีมาตรฐานรับรอง เมื่อมีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดมาตรฐานสินค้า โดยระบุว่า คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรเห็นสมควรกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่องปลาร้าเป็นมาตรฐานทั่วไปตาม พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร 2551 กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : ปลาร้า มกษ. 7023-2561 ไว้เป็นมาตรฐานทั่วไป ใช้โดยสมัครใจ เพื่อส่งเสริมพัฒนายกระดับสินค้าปลาร้าให้มีคุณภาพ…ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ขุนเกษตรา” มองว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับและคิดว่าไม่ได้กระทบต่อวิถีชีวิตของคนที่บริโภคปลาร้าหรือผู้ผลิตปลาร้าแน่นอน ในทางกลับกันจะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภคเสียด้วยซ้ำ วิธีการทำปลาร้าในสมัยปู่ย่าตายายที่ทำมาไม่ใช่ไม่ดี แต่ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปจากอดีต ทั้งแหล่งที่มาของวัตถุดิบและปัจจัยอื่นๆ มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนยิ่งนัก ประกอบกับในปัจจุบัน ปลาร้าเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาปรุงอาหารบริโภคในทุกภาคของประเทศไทย ไม่ใช่บริโภคเฉพาะคนอีสานเท่านั้น แถมยังมีความต้องการในต่างประเทศอีกด้วย มีข้อมูลระบุว่า ในแต่ละปีมีปริมาณการผลิตปลาร้ากว่า 40,000 ตัน มีมูลค่าการตลาดในประเทศกว่า 800 ล้านบาท ส่วนมูลค่าตลาดต่างประเทศอีกกว่า 20 ล้านบาทต่อปี มีตลาดหลักนอกจากในประเทศกลุ่มอาเซียนแล้ว ยังมีสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศที่มีคนไทยอาศัยอยู่มาก การกำหนดมาตรฐานจึงเป็นเรื่องดีโดยรวม ทั้งความปลอดภัย สุขอนามัยที่ดีแล้ว ยังใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในการส่งออกได้…ซึ่งเรื่องนี้มีกระแสเห็นด้วยของผู้ผลิตปลาร้าส่วนใหญ่ เพียงแต่ก็มีข้อเป็นห่วงในเรื่องของรายละเอียดปลีกย่อยที่เกรงว่าอาจส่งผลกระทบกับกลุ่มผู้ผลิตปลาร้ารายเล็กๆ ที่ไม่ใช่โรงงานใหญ่ อีกทั้งยังเกรงว่าจะกระทบกับสูตรปลาร้า ซึ่งเป็นสูตรเส้นทางสายปลาแดกที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เพราะวิธีการหมักแต่ละสูตร แต่ละเจ้าจะไม่เหมือนกันรวมถึงชนิดของปลาที่ใช้ด้วย…เอาน่า ค่อยๆ ปรับกันไปครับ บางอย่างมีจุดเริ่มต้นที่แสนจะยากลำบากและขัดใจอยู่บ้าง แต่มันจะสดใสที่ปลายทางเสมอ…
ขุนเกษตรา มีข่าวดีสำหรับผู้สนใจเรียนเกษตรมาฝาก คณะนวัตกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดรับสมัครนักศึกษาทุนเรียนฟรี “ต้นกล้าเพื่อพัฒนาประเทศ” ปีการศึกษา 2561 สมัครวันนี้จนถึง 31พ.ค.2561 (สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2997-2200-30 ต่อ 3428 หรือ 092-708-9994) คุณสมบัติผู้สมัคร สายวิทย์-คณิต เกรดเฉลี่ย 2.50 ขึ้นไป, สายศิลป์ และ ปวช. เกรดเฉลี่ย 2.75 ขึ้นไป และมีความสนใจด้านการเกษตรหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขานวัตกรรมเกษตร เป็นหลักสูตรแรกที่เปิดการสอนด้านนวัตกรรมเกษตร ที่มุ่งหวังสร้างบัณฑิตให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการนำเอาหลักของวิทยาการ และนวัตกรรมสมัยใหม่ มาใช้เพื่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตรอย่างมีคุณภาพ
ขุนเกษตรา