ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/334438

เกษตรฯดันกาแฟไทยผงาดตลาดโลก ดันขึ้นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่-จับมืออาเซียนพัฒนาอุตสาหกรรม
ดร.วราภรณ์ พรหมพจน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำการผลิตและการค้ากาแฟคุณภาพของภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีการผลักดันให้กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ ที่สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร และผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมกาแฟ เนื่องจากราคาผลผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพในตลาดโลกมีแนวโน้มที่สูงขึ้น รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมกาแฟไทยที่มีมูลค่าสูงแตะ 30,000 ล้านบาท
ดร.วราภรณ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันผลผลิตเมล็ดกาแฟของไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ สาเหตุจากพื้นที่เพาะปลูกที่ลดลงเหลือ 259,867 ไร่ ทำให้ผลผลิตลดเหลือเพียง 23,273 ตัน แต่ยังสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกถึงปีละอย่างน้อย 200 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจกาแฟของไทยมีมูลค่าส่งออกประมาณ 3,900 ล้านบาทในปี 2560 แต่มีการนำเข้าถึง 8,044 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการบริโภคและใช้ในอุตสาหกรรมอยู่ที่ 90,000 ตัน และคาดว่าในปี 2561 ความต้องการจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 แสนตัน ด้วยเหตุนี้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ องค์กรที่เกี่ยวข้อง จึงมีการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการผลิตกาแฟในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้เป็นไปอย่างมีระบบ ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ คือ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลผลิตโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม พัฒนาการแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาด้านการตลาด พัฒนาด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงพัฒนาด้านการบริหารจัดการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มทั้งคุณภาพและปริมาณผลผลิตให้แก่อุตสาหกรรมกาแฟไทย
ด้าน ดร.อนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กล่าวา ประเทศไทยและอาเซียนเป็นกลุ่มประเทศที่อยู่เขตพื้นที่เหมาะสมแก่การปลูกกาแฟ มีผลผลิตเมล็ดกาแฟปริมาณ 1 ใน 4 ของผลผลิตเมล็ดกาแฟทั่วโลก โดยเวียดนามเป็นแหล่งผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้าอันดับ 1 ของโลก และเป็นผู้ผลิตกาแฟสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก บราซิล นอกจากนั้นยังมีผู้ผลิตสำคัญอย่างอินโดนีเซีย ลาว ไทย และเมียนมา ที่มีแนวโน้มผลผลิตมากขึ้น ซึ่งหากมีการร่วมมือกันพัฒนาตั้งแต่กระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ คือ ผลิตสายพันธุ์กาแฟ ปลูก และเก็บเกี่ยว จนเป็นสารเมล็ดกาแฟ ไปถึงปลายน้ำคือผลิตภัณฑ์กาแฟสำหรับดื่มแล้วจะทำให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนสามารถก้าวขึ้นเป็นแหล่งผลิตกาแฟชั้นนำของโลกได้
ดังนั้น องค์กรภาครัฐและเอกชน 12 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงเกษตรฯ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย สมาพันธ์กาแฟอาเซียน สมาคมบาริสต้าไทย และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด จึงได้ร่วมกันจัดการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2561 ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อระดมสมองและผลักดันการพัฒนากาแฟ ไปสู่เป้าหมายเป็นผู้นำการผลิตและการค้ากาแฟคุณภาพในภูมิภาคอาเซียน และสู่ตลาดโลกภายใต้ภาพลักษณ์กาแฟไทย ภายในปี 2564
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล ประธานบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน เป็นการประชุมหารือด้านความร่วมมือการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟไทยและอาเซียน โดยมีเป้าหมายหลักร่วมกันในการสร้างการต่อยอดทางความคิดในด้านของวิชาการและด้านธุรกิจ