ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/335359
x
โชว์ความสำเร็จ‘เกษตรยั่งยืน’ วิสาหกิจ‘เพียรหยดตาล’คว้าที่1 ชุมชนดีเด่นด้านจัดการศัตรูพืช
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่เกษตรกร ต.นางตะเคียน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพปลูกมะพร้าว และเป็นพืชเศรษฐกิจของ ต.นางตะเคียน มีพื้นที่ปลูก 6,525 ไร่ ซึ่งเมื่อปี 2557 มีการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว ทำให้ผลผลิตลด ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรง ทำให้มีการรวมกลุ่มเกษตรกร
ผู้ปลูกมะพร้าวในพื้นที่ในนามวิสาหกิจชุมชนเพียรหยดตาล เพื่อผลิตแตนเบียนบราคอนกำจัดหนอนหัวดำ โดยใช้ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนตำบลนางตะเคียน เป็นศูนย์กลางด้านการบริหารจัดการศัตรูพืชของชุมชน ภายใต้โครงการเกษตรยั่งยืน 1
“ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนเพียรหยดตาลดำเนินกิจกรรมผลิตแตนเบียนบราคอน ภายใต้ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนตำบลนางตะเคียน เป็นเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบด้านการผลิตแตนเบียนบราคอนและถ่ายทอดความรู้ให้กับศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนอื่นๆ และสามารถแก้ไขปัญหาหนอนหัวดำมะพร้าวระบาดในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสงคราม และอำเภออื่นๆ ในจังหวัดสมุทรสงคราม มีแนวคิดที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ด้านการผลิตมะพร้าวแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตมะพร้าว การผลิตแตนเบียนบราคอน การแปรรูป และการตลาด” นายสมชาย กล่าว
ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่ชุมชนมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน และสามารถแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนของตนเอง รวมถึงชุมชนใกล้เคียง ส่งผลให้วิสาหกิจชุมชนเพียรหยดตาล คว้ารางวัลชนะเลิศ อันดับที่ 1 ด้านการจัดการศัตรูพืช พร้อมเตรียมต่อยอดมุ่งมั่นในการผลิตมะพร้าวโดยไม่ใช้สารเคมีด้วยการนำเทคโนโลยีการผลิตแตนเบียนบราคอน และผลิตสารชีวภัณฑ์อื่นๆ มาใช้ในการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าว และศัตรูพืชอื่นๆ ทำให้กลุ่มฯ สามารถผลิตมะพร้าวที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มีมูลค่าสินค้าของกลุ่มเพิ่มขึ้น ได้แก่ มะพร้าวอ่อน น้ำตาลมะพร้าว วุ้นมะพร้าว เป็นต้น รวมถึงสามารถขยายตลาดการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดอินทรีย์ ส่งผลให้รายได้ของสมาชิกในกลุ่มเพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรมีกำลังใจและขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการดีๆ ให้กับเกษตรกรโดยที่เกษตรกรเป็นผู้เลือกในกิจกรรมที่จะดำเนินการเอง นอกจากนี้กลุ่มฯ ยังได้พัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแนววิถีเกษตรอินทรีย์ เป็นการเพิ่มช่องทางตลาดและรายได้ให้กับสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง นับเป็นต้นแบบความเข้มแข็งชุมชนจากการสนับสนุนของรัฐบาลที่เกิดผลต่อชุมชนอย่างแท้จริง