ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/341349

ชายคาพระพิรุณ : 28 พฤษภาคม 2561
“ขุนเกษตรา” รายงานตัว นำเรื่องราวใต้ชายคาพระพิรุณมาเล่าสู่กันฟังเหมือนเดิม…ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน ต่อเนื่องมาต้นสัปดาห์นี้ ชายคาพระพิรุณ ระส่ำระสายจากข่าวลือ กระแสโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงเกษตรฯ หลายตำแหน่ง สลับกรม สลับตำแหน่งกันแบบงงๆ ยันตำแหน่งปลัดกระทรวงที่มีการอ้างว่า นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ จะลาออกจากราชการเข้าสู่ถนนการเมือง ทั้งที่เหลืออายุราชการแค่ 4 เดือน แล้วจะโยก นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเสียบแทน ซึ่งขุนเกษตราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า โผนี้มาจากไหน ใครแต่งตั้ง แต่ทำให้ลูกหม้อกระทรวงเกษตรฯเสียขวัญกันไม่น้อย เช็คข่าวกันวุ่นวาย…ขุนเกษตรา มองว่า ผลของการแต่งตั้งโยกย้ายข้ามห้วยข้ามหนอง จากอดีตที่ผ่านมา ล้วนทำให้ประเทศและเกษตรกรเสียโอกาส เพราะใช้คนไม่ถูกกับงาน ทำให้ถอยหลังหรือย่ำอยู่กับที่ ข้าราชการหมดกำลังใจ ทำอย่างไรก็ไม่เติบโตในหน้าที่การงาน เพราะมีการข้ามหัว ข้ามห้วยกันไปมา…กระทรวงเกษตรฯ ยังมีคนที่มีความรู้ความสามารถอีกเยอะ เพียงแต่ใช้คนให้ถูกกับงานหรือยัง หรือที่ผ่านมาเลือกใช้เพราะใครเป็นเด็กใคร ไม่ใช่เพราะความรู้ ความสามารถ…ส่วนกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้น แม้แต่ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ยังต้องออกมายืนยันหมื่นเปอร์เซ็นต์ว่า ไม่มีแน่นอน และยังแสดงท่าทีแปลกใจว่า ทำไมช่วงนี้มีการเสนอข่าวโยกย้ายกันบ่อย ทั้งที่ตัวเองเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย โดยจะรอให้ถึงช่วงโยกย้ายประจำปี จึงค่อยไปพิจารณา….นั่นนะสิ ขนาดรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงยังไม่รู้เลย น่าแปลกใจแท้ว่ามีข่าวลือแบบนี้มาได้อย่างไร ใครปล่อยข่าวโยนหินถามทางอะไรหรือเปล่า รอดูกันต่อไป…
มาคุยกันเรื่องของการทำงานเพื่อเกษตรกรกันบ้างดีกว่า…ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีจุดมุ่งหมายขจัดความยากจนและพัฒนาชนบท ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของความสมดุลพอดี และความพอประมาณอย่างมีเหตุผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงได้กำหนดนโยบายโครงการส่งเสริมการจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพแก่เกษตรกร เพื่อส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายบุคคล มุ่งเน้นเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกร ให้เห็นถึงประโยชน์ของการจดบัญชีทั้งบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และต่อยอดไปจนถึงบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ซึ่ง นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ บอกว่าได้สร้างแกนนำเกษตรกรให้เป็นครูบัญชีอาสาในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ช่วยในการขับเคลื่อนการทำงานตามโครงการ
ดังกล่าว โดยทำหน้าที่เป็นวิทยากร และวิทยากรผู้ช่วย ในการอบรมสอนแนะให้กับเกษตรกรได้และเข้าใจการจดบันทึกบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ รวมทั้งการนำข้อมูลจากบัญชีมาใช้ประโยชน์ ตลอดจนทำหน้าที่กำกับแนะนำกระตุ้นให้เกษตรกรทำบัญชี และติดตามผลการจัดเก็บข้อมูลการทำบัญชีของเกษตรกรเป้าหมายเพื่อประเมินผล ดังนั้น เพื่อให้การส่งเสริมการจัดทำบัญชีสู่เกษตรกรและเป้าหมายอื่นๆ บังเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยการสร้างและพัฒนาครูบัญชีให้มีศักยภาพในการปฏิบัติงาน และสร้างเครือข่ายครูบัญชีทั้งระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศ ให้การปฏิบัติงานของครูบัญชีมีความเข้มแข็งและมีศักยภาพ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรพัฒนาอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ในการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร (โครงการไทยนิยม ยั่งยืน) ปี 2561 ขึ้น รองรับในโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร (ไทยนิยม ยั่งยืน) ปี 2561 ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อถ่ายทอดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร (ไทยนิยม ยั่งยืน) ให้อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชีได้รับทราบ ทบทวนความรู้ ความเข้าใจให้กับอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี ในประเด็นสำคัญของหลักการจดบันทึกบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน, บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ และการนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้ประโยชน์ในการวางแผนการใช้จ่ายในครัวเรือนและในการประกอบอาชีพ…นับว่าเป็นเรื่องดีครับ ถ้าเกษตรกรรู้จักทำบัญชี บันทึกกิจกรรมต่างๆ ที่ทำ จะช่วยวางแผนการทำเกษตรหรือแผนการใช้จ่ายได้ดังสโลแกน “จดแล้วไม่จน”
ขุนเกษตรา