รายงานพิเศษ : ‘สสก.5’ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ สร้างงานสร้างรายได้ปาล์มน้ำมัน‘สตูล’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/341354

รายงานพิเศษ : ‘สสก.5’ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่  สร้างงานสร้างรายได้ปาล์มน้ำมัน‘สตูล’

รายงานพิเศษ : ‘สสก.5’ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ สร้างงานสร้างรายได้ปาล์มน้ำมัน‘สตูล’

วันจันทร์ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดสตูล เป็นลำดับที่ 2 รองจากยางพารา ที่ผ่านมาเกษตรกรทำสวนปาล์มน้ำมันในลักษณะต่างคนต่างทำ พึ่งพาปัจจัยการผลิตและแรงงานจากภายนอก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตและคุณภาพผลผลิตต่ำ ส่งผลต่อกำไรและรายได้ต่ำตามไปด้วย จึงเกิดการรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ เพื่อร่วมบริหารจัดการ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ยกระดับมาตรฐานผลผลิตตามความต้องการของตลาด และเชื่อมโยงตลาดในลักษณะประชารัฐ

นายสุพิท จิตรภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา กรมส่งเสริมการเกษตร
เปิดเผยว่า จ.สตูล มีการรวมกลุ่มเกษตรกรดำเนินงานโครงการส่งเสริมการเกษตรระบบแปลงใหญ่สินค้าปาล์มน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบัน 12 แปลง รวม 8,660.50 ไร่ หรือร้อยละ 7.92 ของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งจังหวัด เกษตรกร 907 ครอบครัว สำหรับตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ สินค้าปาล์มน้ำมัน มีพื้นที่ปลูก 2,125 ไร่ เกษตรกร 183 ราย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยพื้นที่ปลูกไม่เกินรายละ 15 ไร่ การจำหน่ายผลผลิตแบบต่างคนต่างขายให้กับลานเทในพื้นที่และโรงงานอุตสาหกรรม ขาดการรวมกลุ่ม เกษตรกรประสบปัญหาต้นทุนผลิตสูง ผลผลิตต่ำเฉลี่ย 2,419 กก./ไร่/ปี

ปลายปี 2557 อ.มะนัง ได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมันที่ ต.นิคมพัฒนา ในแปลงของเกษตรกรต้นแบบ นายหวาหาบ ยาบา หมู่ที่ 5 ต.นิคมพัฒนา ซึ่งใช้ภูมิปัญญาและวิชาการดูแลรักษาปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตสูงไม่น้อยกว่า 5 ตัน/ไร่/ปี ต้นทุนการผลิตต่ำเป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อขยายผลการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้ในการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพผลผลิต และขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรฯให้เห็นเป็นรูปธรรม จึงได้รวบรวมสมาชิกเกษตรกรผู้ผ่านการเรียนรู้จากศูนย์เรียนรู้ฯ และเกษตรกรข้างเคียง และใช้ข้อมูล Zoning by Agri-map รวมกลุ่มส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ ในหมู่ที่ 1 3 5 6 และ 9 จำนวน 132 แปลง พื้นที่ 1,606 ไร่ เกษตรกร 124 ราย โดยมีทีมผู้จัดการแปลงที่มีเกษตรอำเภอเป็นหัวหน้าทีมดำเนินการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานของเกษตรกรที่สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก เพื่อนำข้อมูลที่จัดเก็บได้มาวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต การตลาด เทคโนโลยีและการปฏิบัติของเกษตรกร และนำข้อมูลพื้นฐานดังกล่าวบันทึกเข้าระบบ bigfarm.doae.go.th แล้วนำข้อมูลที่ได้จากการจัดเก็บและวิเคราะห์ให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาในการกำหนดเป้าหมายการพัฒนา มีมติกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานภายในระยะเวลา 3 ปี คือ ลดต้นทุนการผลิตร้อยละ 20 จากไร่ละ 5,618 บาท/ปี เหลือ 4,494 บาท/ปี เพิ่มผลผลิตร้อยละ 20 คือ จากไร่ละ 2,419 กิโลกรัม/ปี เป็น 2,903 กิโลกรัม/ปี

ในการดำเนินการ สมาชิกทุกคนจะลดต้นทุนการใช้ปุ๋ย โดยใช้แม่ปุ๋ยหรือผสมปุ๋ยใช้เอง แทนการซื้อปุ๋ยสำเร็จ โดยรวมกันซื้อครั้งละมากๆ เพื่อให้ได้ราคาถูกลง ใช้องค์กรด้านทุนในพื้นที่ เช่น สหกรณ์กองทุนสงเคราะห์สวนยางพาราประจำตำบล เป็นหน่วยจัดหาปัจจัยการผลิตราคาถูกและสินเชื่อช่วยสมาชิกที่ขาดเงินทุน ตลอดจนด้านการตลาด ส่วนการเพิ่มผลผลิต สมาชิกทุกคนปฏิบัติดูแลรักษาสวนปาล์มน้ำมันตามหลักวิชาการและแผนการผลิต รวมทั้งเคร่งครัดการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่สุกตามมาตรฐานทะลายปาล์มน้ำมันที่โรงงานอุตสาหกรรมต้องการ

การดำเนินงานกลุ่มมีความเข้มแข็ง โดยคณะกรรมการกลุ่มทำหน้าที่ประสานและบูรณาการกับทีมผู้จัดการแปลง ภาคีเครือข่าย และสมาชิก ได้รับทุนสนับสนุน จากงบพัฒนาจังหวัดสตูล ปี 2559 ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยสมาชิกแปลงใหญ่รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิต กิจกรรมการผสมปุ๋ยใช้เองในสวนปาล์มน้ำมัน จำนวน 50 ราย โรงงานอุตสาหกรรมบริษัทปาล์มไทยพัฒนา ให้การสนับสนุนการติดตั้งระบบน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน สมาชิกแปลงใหญ่ พื้นที่ 300 ไร่ 2,000,000 บาท เป็นแปลงสาธิตการเพิ่มผลผลิต และงบพัฒนาจังหวัด ปี 2560 ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม กิจกรรมการจัดระบบน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ 40 ไร่ งบประมาณ 800,000 บาท

นายสุพิทกล่าวอีกว่า ผลจากการดำเนินงาน ส่งผลให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้จากไร่ละ 5,618 บาท เหลือ 4,547 บาท ลดลงไร่ละ 1,071 บาท ได้ปริมาณผลผลิตเพิ่มจากเดิมไร่ละ 2,419 กก./ปี เป็น 2,957 กก./ปี เพิ่มขึ้นไร่ละ 538 กก. ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไร่ละ 2,738 บาท ผลผลิตปาล์มน้ำมันมีคุณภาพได้มาตรฐาน เกษตรกรมีความรู้การปฏิบัติดูแลรักษาสวนปาล์มน้ำมันอย่างถูกต้อง มีการวางแผนการผลิตร่วมกัน มีการใช้ปุ๋ยที่ถูกช่วงเวลา (พฤษภาคม-กรกฎาคม) ในต้นฤดูฝนที่พร้อมกัน มีการปฏิบัติดูแลรักษาสวนปาล์มน้ำมันตามหลักวิชาการที่เหมือนกัน มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน ทำให้บริหารผลผลิตได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงระหว่างแปลงใหญ่กับหน่วยงานด้านการตลาด เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ลานเทรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ และสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ ทำให้เกษตรกรสมาชิกขายผลผลิตให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ได้ราคาที่สูงกว่าราคาหน้าโรงงานอีกด้วย

Leave a comment