ดันตั้งสวัสดิการ‘เกษตรกร’ เกษตรฯเล็งปรับกองทุนสงเคราะห์ฯสร้างความมั่นคงอาชีพ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/346396

ดันตั้งสวัสดิการ‘เกษตรกร’  เกษตรฯเล็งปรับกองทุนสงเคราะห์ฯสร้างความมั่นคงอาชีพ

ดันตั้งสวัสดิการ‘เกษตรกร’ เกษตรฯเล็งปรับกองทุนสงเคราะห์ฯสร้างความมั่นคงอาชีพ

วันพุธ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯได้รวบรวมปัญหาของเกษตรกร เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืน ซึ่งพบปัญหาหลักๆ อาทิ มีการลงทุนสูงแต่รายได้ต่ำ สภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เป็นต้น ถึงแม้ว่าขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ มีแผนการผลิตที่เชื่อมโยงกับความต้องการของตลาด แต่เกษตรกรยังขาดแรงจูงใจที่จะทำตามแผนดังกล่าว ประกอบกับเมื่อเกษตรกรประสบปัญหาขาดทุน ประสบภัยพิบัติ เกิดความล้มเหลวในอาชีพก็ไม่มีใครช่วยเหลือ กระทรวงเกษตรฯ จึงมีแนวความคิดให้อาชีพเกษตรกร เป็นอาชีพที่มั่นคงเทียบเท่าข้าราชการ หรือ กรรมกรที่มีสวัสดิการรองรับเมื่อประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ  โดยได้นำพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ.2554 ซึ่งมีทุน 2,900 กว่าล้านบาท มาดำเนินงานต่อ โดยมีเงื่อนไขให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปลูกพืชตามแผนที่กระทรวงเกษตรฯ กำหนด หากในอนาคตเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นราคาสินค้าตกต่ำ ประสบภัยพิบัติ ฯลฯ เกษตรกรจะได้รับความช่วยเหลือจากกองทุน ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนในการวางแผนดำเนินงาน และหางบสนับสนุนเพิ่มเติม

โดยจากสถิติการใช้งบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรพบว่า บางปีภาครัฐใช้เงินกว่า 200,000 ล้านบาท ในการเข้าไปอุดหนุนหรือช่วยเหลือเกษตรเมื่อประสบปัญหา แต่หากนำเงินส่วนนี้มาตั้งเป็นกองทุนเพื่อดูแลสวัสดิการแก่เกษตรกร น่าจะใช้งบน้อยกว่า และมีแรงจูงใจให้เกษตรกรปลูกพืชตามแผนที่กระทรวงเกษตรฯ วางไว้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาภาคเกษตรได้อย่างยั่งยืน สำหรับแนวทางการตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนสวัสดิการให้เกษตรกรนั้น กระทรวงเกษตรฯได้มีการเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีเห็นด้วย และสั่งการให้ดำเนินการเรื่องสวัสดิการการดูแลเกษตรกร รวมไปจนถึงเรื่องของการเสียชีวิตแล้วมีค่าชดเชย เหมือนการประกอบอาชีพอื่น เพื่อยกระดับอาชีพเกษตรกรรม โดยเกษตรกรทุกสาขาจะต้องมีสวัสดิการดูแล มีเงินจากกองทุนคุ้มครอง เหมือนกับเกษตรกรต่างประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น ที่มีการให้สวัสดิการแก่เกษตรกรดูแลตลอดชีพจนกระทั่งเสียชีวิต มีเงินเยียวยาเกษตรกรเมื่อเจอปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วม ภัยแล้ง เป็นต้น

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า เรื่องสวัสดิการเกษตรกร จะมีการดำเนินการอย่างรอบคอบ เนื่องจากอาจจะมีไปซ้ำซ้อนกับกองทุนอื่น อาทิ เรื่องบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตร 30 บาท) / กฎหมายของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีการกำหนดการดูแลสวัสดิการไว้ แต่เป็นเงินจ่ายขาด หากมีการจัดตั้งกองทุนดูแสสวัสดิการเกษตรกร จะต้องนำเกษตรกรชาวสวนยางเข้ามาดูแลด้วย แต่การดำเนินการเรื่องนี้ ต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายอย่าง ต้องดูในข้อกฎหมายในเรื่องงบประมาณในการตั้งกองทุนและงบบริหารว่าขัดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังหรือไม่ ต้องดูเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ.2554 และ พ.ร.บ.เศรษฐกิจการเกษตร ปี 2522 หรือไม่ต้องนำมาปรับถ้อยคำเพิ่มเติมบางมาตราเพื่อให้คุ้มครองการทำเกษตรกรรม

Leave a comment