ส่งเสริมอาชีพ‘ปกาเกอะญอ’ เกษตรฯหนุนปลูกผักอินทรีย์ ฟื้นฟูผืนป่า‘ดอยอินทนนท์’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/347638

ส่งเสริมอาชีพ‘ปกาเกอะญอ’ เกษตรฯหนุนปลูกผักอินทรีย์ ฟื้นฟูผืนป่า‘ดอยอินทนนท์’

ส่งเสริมอาชีพ‘ปกาเกอะญอ’ เกษตรฯหนุนปลูกผักอินทรีย์ ฟื้นฟูผืนป่า‘ดอยอินทนนท์’

วันอังคาร ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.

กรมส่งเสริมการเกษตร ลุยส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมชุมชนชาวปกาเกอะญอที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ดอยอินทนนท์ บ้านเมืองอาง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ปลูกผักอินทรีย์ ลดการบุกรุกป่า เน้นการมีอาชีพโดยพึ่งพาธรรมชาติและอยู่ร่วมกับธรรมชาติ หวังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงได้อย่างยั่งยืน

นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า บ้านเมืองอาง เป็นชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่คุ้มครองของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ในอดีตมีชาวปกาเกอะญอทำไร่หมุนเวียนตามภูมิปัญญาดั้งเดิม แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงระบบการผลิตไปสู่การปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้พื้นที่สีเขียวลดลงเนื่องจากการบุกรุกพื้นที่ป่า ประชาชนมีหนี้สินเพิ่มขึ้นจากการนำเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรมาใช้ ด้วยเหตุนี้ทำให้คนในชุมชนปรับเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนระบบผลิตเชิงการค้าเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์

โดยเมื่อปี 2545 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีต่างๆ เช่น มูลนิธิโครงการหลวง เข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ สนับสนุนงบประมาณช่วงเริ่มโครงการเป็นเงิน 450,000 บาท เพื่อสนับสนุนปัจจัยการผลิต และการศึกษาดูงานเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ และยังคงให้การสนับสนุนต่อเนื่องในการถ่ายทอดความรู้เรื่องการผลิตผักอินทรีย์ โดยมีนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรเข้าถึงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันโครงการผลิตผักอินทรีย์ กลุ่มผลิตผักอินทรีย์บ้านเมืองอาง มีสมาชิก 128 ราย รายละ 2 โรงเรือน (ขนาด 6×20 เมตร) มีผลการดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมาคือ เกษตรกร
ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเกษตรอินทรีย์ได้เป็นอย่างดี จนได้รับรองคุณภาพเกษตรอินทรีย์ จากหน่วยงานราชการ และ มกท.หรือมาตรฐาน IFOAM

ทั้งนี้ผลผลิตผักอินทรีย์ทั้งหมดจะส่งจำหน่ายให้กับโครงการหลวง รวมถึงร้านอาหารของภาคเอกชน และผู้ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สำหรับชนิดของผักที่ปลูก มี 8 ชนิด เช่น ผักเบบี้ฮ่องเต้ ผักฮ่องเต้ ผักกาดกวางตุ้ง เบบี้แครอท ถั่วแขก เป็นต้น ขณะนี้กำลังการผลิตผักแต่ละชนิดนั้นยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด กรม จึงได้วางแผนที่จะสนับสนุนโรงเรือนปลูกผักเพิ่มให้กับเกษตรกรเพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยสมาชิกของกลุ่มจะได้รับการอบรมความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการจัดการดูแลใหม่ๆ ทุกปี พร้อมกันนั้นจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรมีรายได้หมุนเวียน ทุก 25 วัน เป็นเงินรายได้ ตั้งแต่ 2,000-5,000 บาท แล้วแต่ชนิดผักที่ทำการผลิต ในปี 2560 เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด สามารถนำรายได้เข้าหมู่บ้านจากกิจกกรมปลูกผักอินทรีย์ เป็นเงินถึง 10 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวมีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่ทำลายพื้นที่และทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมแต่สามารถอยู่ร่วมกับป่าธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

Leave a comment