ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/347626

เกษตรฯเตือนภัย ‘โรครากเน่า-โคนเน่า’ ระบาดในไม้ผล
จากการที่หลายพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ระวังปัญหาการระบาดของโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โดยเฉพาะไม้ผลในแถบภาคตะวันออก และภาคใต้ซึ่งอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ประกอบกับข้อมูลจากแปลงติดตามสถานการณ์ศัตรูไม้ผล เริ่มพบการเข้าทำลายของโรครากเน่าโคนเน่าในหลายพื้นที่ และด้วยสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูง ปริมาณฝนค่อนข้างมากซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำลายของโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผลเพิ่มขึ้น
เชื้อราสาเหตุสำคัญของโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล คือ เชื้อรา Phytophthora palmivora พบในทุเรียน และเชื้อรา Phytophthora parasitica ซึ่งพบในพืชตระกูลส้ม โดยลักษณะอาการของโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผลที่สังเกตเห็นได้ คือ บริเวณโคนต้นเปลือกจะปริแตก ทำความเสียหายกับระบบรากทำให้รากเน่า บริเวณโคนต้นมียางไหลในสภาพที่อากาศชื้น เมื่อใช้มีดตัดหรือถากที่เปลือกบริเวณที่เป็นโรคจะเห็นเป็นสีน้ำตาลแดงถึงสีดำ แสดงอาการใบเหลืองซีดลู่ลง กิ่งบางกิ่งเริ่มแห้งตาย และผลหลุดร่วง
ส่วนการแพร่ระบาดของโรคนั้น เกิดจากเชื้อราถูกชะล้างโดยน้ำฝนและไหลตามกระแสน้ำ หรือเชื้อราถูกพัดพาโดยกระแสลม หรือเชื้อราอาจติดไปกับดิน น้ำ ซากหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของพืชที่เป็นโรค
สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผลนั้น กรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำให้เกษตรกรสำรวจสวนผลไม้อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ทำการตัดแต่งกิ่ง หรือต้นที่เป็นโรคไปเผาทำลาย บำรุงต้นไม้ผลให้สมบูรณ์แข็งแรง ปรับปรุงสภาพดิน โดยใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ทำร่องระบายน้ำในสวนที่เป็นพื้นที่ต่ำเพื่อป้องกันน้ำขังภายในสวน ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา (เชื้อสด) หว่านในพื้นที่รัศมีทรงพุ่มที่มีรากฝอยกระจายอยู่ หรือใช้รองก้นหลุมก่อนการปลูกหรือเมื่อพบอาการของโรคให้ขูดผิวเปลือกบริเวณที่เป็นโรคออกแล้ว ทาแผลด้วยปูนแดง หรือทาด้วยสารเคมีเมทาแลกซิล 25% WP หรือใช้สารเคมีฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% WP พ่นให้ทั่วบริเวณลำต้นและใบ หรือหากพบอาการรุนแรงที่ลำต้น หรือกิ่งใหญ่ ให้ใช้ฟอสฟอรัส แอซิด 40% SL ฉีดเข้าลำต้นบริเวณที่เป็นเนื้อไม้ดีใกล้บริเวณที่เป็นโรคหรือฉีดเข้าลำต้นเหนือระดับผิวดิน อัตราตามคำแนะนำในฉลาก
โดยเฉพาะทุเรียนในระยะติดผลก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 1 เดือน ให้สำรวจผลทุเรียนทุกต้น สัปดาห์ละครั้ง หากพบผลเน่า 1 ผลต่อต้น ให้พ่นสารเคมีฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% WP ให้ทั่วก่อนการเก็บผลไม่น้อยกว่า 20 วัน ทำลายชิ้นส่วนของทุเรียนที่เป็นโรค โดยการเผาและไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวนอย่างเด็ดขาดเพราะจะเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อราสาเหตุของโรคในสวนผลไม้ได้ อย่างไรก็ตาม หากพบอาการของโรคให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อกำหนดแนวทางการควบคุม และดำเนินการป้องกันกำจัดก่อนที่การระบาดจะแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2955-1514 , 0-2955-1626 หรือ https://www.doae.go.th/doae/upload/files/Fruit_Phytophthora_300561.pdf