เตือนโรคขอบใบแห้ง สสก.2แนะชาวนาเฝ้าระวัง-หวั่นกระทบผลผลิต

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/348139

เตือนโรคขอบใบแห้ง  สสก.2แนะชาวนาเฝ้าระวัง-หวั่นกระทบผลผลิต

เตือนโรคขอบใบแห้ง สสก.2แนะชาวนาเฝ้าระวัง-หวั่นกระทบผลผลิต

วันพฤหัสบดี ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นายสมคิด เฉลิมเกียรติ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชจังหวัดสุพรรณบุรี (ศทอ.สุพรรณบุรี) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 (สสก.2) จังหวัดราชบุรี โดย ศทอ.สุพรรณบุรี ได้ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคขอบใบแห้ง (Bacterial Leaf Blight or Bacterial) ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันตก พบว่า ขณะนี้ได้มีการระบาดของโรคขอบใบแห้ง ในข้าวระยะแตกกอ ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกและความชื้นในอากาศสูงเหมาะกับการระบาดของโรคดังกล่าว

สำหรับอาการของโรคนี้เป็นได้ตั้งแต่ระยะกล้า แตกกอ จนถึงออกรวง มีลักษณะช้ำที่ขอบใบของใบล่าง ต่อมาประมาณ 7-10 วัน จุดช้ำนี้จะขยายกลายเป็นทางสีเหลืองยาวตามใบข้าว ขอบแผลมีลักษณะเป็นขอบลายหยัก ใบที่เป็นโรคจะแห้งเร็ว แผลอาจมีหยดน้ำสีครีมคล้ายยางสนกลมๆ ขนาดเล็กเท่าหัวเข็มหมุด หลุดไปตามน้ำหรือฝน ซึ่งจะทำให้โรคสามารถระบาดต่อไปได้

เกษตรกรสามารถป้องกันกำจัดได้โดยการใช้พันธุ์ข้าวที่ต้านทาน เช่น ในภาคกลางใช้พันธุ์สุพรรณบุรี 60 สุพรรณบุรี 90 สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 2 และกข 23 ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่าเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับลำต้น ไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากในดินที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว ไม่ควรระบายน้ำจากแปลงที่เป็นโรคไปสู่แปลงอื่น ควรเฝ้าระวังการเกิดโรคโดยเฉพาะถ้าปลูกข้าวพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรคนี้ เช่น พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 กข 6 เหนียวสันป่าตอง พิษณุโลก 2 และถ้าจำเป็นต้องใช้สารเคมีแนะนำให้ใช้ สารเสต็พโตมัยซินซัลแฟต+ออกซีเตทตราไซคลินไฮโดรคลอร์ไรด์
(แคงเกอร์เอ็กซ์) หรือคอปเปอร์ไฮดรอกไซด์(ฟังกูราน) หรือไอโซโปรไธโอเลน(ฟูจิ-วัน) หรือไตรเบซิคคอปเปอร์ซัลเฟต เมื่อเริ่มพบอาการของโรคบนใบข้าว สิ่งสำคัญคือเกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบโรคจะได้รีบหาวิธีการป้องกันกำจัดได้อย่างทันท่วงที ลดผลกระทบที่อาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิตและรายได้ของเกษตรกร

Leave a comment