ชายคาพระพิรุณ : 9 กรกฎาคม 2561

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/350322

586851

ชายคาพระพิรุณ : 9 กรกฎาคม 2561

วันจันทร์ ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

“ขุนเกษตรา” รายงานตัวเล่าข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชายคาพระพิรุณเหมือนเดิมครับ…ต้นสัปดาห์ที่แล้วเราได้รับข่าวดีที่ทีมกู้ภัยเจอเด็กและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนหลังจากค้นหากันมาร่วม 9 วัน…เหตุการณ์นี้เราได้เห็นน้ำใจและความสามัคคีของคนไทย ที่ต่างมีจุดหมายเดียวกันคือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งหมด ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่…โดยกรมชลประทานได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการทำทางเบี่ยงน้ำ (Bypass) จนสามารถตัดยอดน้ำรวมกันได้ประมาณ 32,000 ลบ.ม./วัน ส่งผลให้ระดับน้ำในถ้ำหลวงได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการสูบน้ำถ้ำหลวง นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรม
ส่งเสริมการเกษตร บอกว่า จะยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 โดยต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย จำนวนพื้นที่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิงรายละไม่เกิน 30 ไร่ อัตราการช่วยเหลือ ข้าวไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ๆละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆ ไร่ละ 1,690 บาท

ส่วนการฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่รับน้ำซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าว ทางกรมการข้าว โดยนายสุวัฒน์ เจียระคงมั่น
รองอธิบดีกรมการข้าว บอกว่า จากการสำรวจพบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 ตำบล คือ ต.โป่งผา ต.สีเมืองชุม และ ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย มีพื้นที่ข้าวได้รับผลกระทบทั้งสิ้นประมาณ 1,397.5 ไร่ กรมการข้าวได้ประสานงานกับหน่วยงานของกรมการข้าวในพื้น ที่ให้จัดทีมเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับเทคโนโลยีการปลูกข้าวที่เหมาะสมหลังน้ำลด และประสานงานกับสำนักงานเกษตรอำเภอเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการสำรวจระดับความเสียหายของพื้นที่นาข้าวเพื่อเตรียมพร้อมสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบนาข้าวเสียหายอย่างสิ้นเชิง…

ขุนเกษตรา เป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำงานกันอย่างเต็มที่ ทำให้เราได้เห็นศักยภาพรวมถึงเทคโนโลยีของหลายๆ หน่วยงาน ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้แพ้ใครในโลก และที่ต้องไม่ลืมคือน้ำใจของเกษตรกรที่ยอมเสียสละให้พื้นที่เกษตรของตัวเองเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งนับว่าเป็นความเสียสละอย่างใหญ่หลวงยิ่งนัก ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ควรดูแลเกษตรกรเหล่านี้อย่างดีและเหมาะสมที่สุดทั้งด้านการชดเชยและการฟื้นฟู

ขุนเกษตร

Leave a comment