รายงานพิเศษ : เดินหน้างานนำวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มาประยุกต์ใช้ในงานส่งเสริมการเกษตร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/353764

รายงานพิเศษ : เดินหน้างานนำวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ  มาประยุกต์ใช้ในงานส่งเสริมการเกษตร

รายงานพิเศษ : เดินหน้างานนำวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มาประยุกต์ใช้ในงานส่งเสริมการเกษตร

วันพฤหัสบดี ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาภาคเกษตรกร สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยี และงานวิจัยที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ประเทศพัฒนาก้าวเข้าสู่ Thailand 4.0 ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพภูมิอากาศ สภาพสังคม และทำให้ภาคการเกษตรของไทยจำเป็นต้องปรับตัว กรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะที่มีความใกล้ชิดเกษตรกร จึงเห็นความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร และกิจกรรมการเกษตรต่างๆ

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่ทุกพื้นที่ของประเทศไทย มีเกษตรตำบล เป็นผู้ดูแลเกษตรกรในระดับพื้นที่ การนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในงานส่งเสริมการเกษตรจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งดังนั้นการร่วมมือและการทำงานแบบบูรณาการจึงเป็นสิ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตรเอง ต้องมีเครือข่ายในการทำงาน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย มีคณาจารย์ และนักวิจัยหลากหลายสาขา ที่มีงานวิจัยและนวัตกรรมดีๆ มากมาย ที่สามารถร่วมกันพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกร จึงได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านวิชาการ ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ 5 มหาวิทยาลัย ใน 4 ภูมิภาคของประเทศ โดยภาคกลาง ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภาคเหนือ ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคใต้ ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทั้งหมดได้ทำความตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เป็นกรอบการทำงานที่จะสานต่อเจตนารมณ์ เพื่อนำงานวิจัยไปสู่เกษตรกร หลังจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจะได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนางานวิจัยร่วมกันและถ่ายทอดงานวิจัยให้กับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เพื่อนำไปต่อยอดให้กับเกษตรกร โดยเน้นเป้าหมายเกษตรกรของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การส่งเสริมการเกษตร ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติมาก ดังนั้นการพัฒนาองค์ความรู้ ล้วนแต่เป็นเรื่องสำคัญ การนำผลการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปใช้ประโยชน์ ในรูปแบบการเผยแพร่ต่อยอดองค์ความรู้ จะสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม ประยุกต์ใช้กับกลุ่มเป้าหมายจนก่อให้เกิดประโยชน์ได้จริงอย่างชัดเจน การที่ภาคการเกษตรจะพัฒนาไปสู่เป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้มีทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์รัฐบาลในการนำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยไปต่อยอด และการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ใหม่ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ การสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ การแปรรูป การสร้างตราสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต และการลดต้นทุนการผลิต การสร้างอาชีพ และทางเลือกให้กับผู้ประกอบการ เกษตรกรหรือผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ซึ่งหลังจากการเดินทางไปร่วมลงนามกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็พบว่า ยังมีงานวิจัยหลายด้านที่เป็นประโยชน์สามารถสานต่อเพื่อนำไปสู่เกษตรกรได้ เช่น การผลิตสมุนไพรคุณภาพ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ การขยายผลการควบคุมศัตรูพืช โดยศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น การผลิตพันธุ์สตอเบอร์รี่คุณภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่กรมส่งเสริมการเกษตร สามารถเข้าไปช่วยขยายผลได้ทันทีนับเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถต่อยอดให้เห็นถึงผลสำเร็จที่สามารถนำงานวิจัยไปขยายผลถึงเกษตรกรได้ทันที

Leave a comment