หลุดพ้นความยากจน! ‘กฤษฎา’ดึง6หน่วยงานวางระบบประกันภัยพืชผล ดันคุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/355360

หลุดพ้นความยากจน! 'กฤษฎา'ดึง6หน่วยงานวางระบบประกันภัยพืชผล ดันคุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้น

หลุดพ้นความยากจน! ‘กฤษฎา’ดึง6หน่วยงานวางระบบประกันภัยพืชผล ดันคุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้น

วันพฤหัสบดี ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 18.02 น.

“กฤษฎา”ดึง6หน่วยงานวางระบบการประกันภัยพืชผลการเกษตรของประเทศไทย ดันคุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้นพ้นความยากจน รัฐจ่ายประกันความเสี่ยงภัยพิบัติให้80% นำร่องนาข้าว30ล้านไร่ผ่านระบบฐานข้อมูลภาคเกษตรแม่นยำสูง ก้าวสู่เกษตร4.0

2 ส.ค.61 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องการพัฒนาระบบการประกันภัยพืชผลการเกษตรของประเทศไทย ในระยะ 3 ปี กับ 6 หน่วยงาน เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อร่วมมือกันศึกษาระบบการประกันภัยพืชผลการเกษตรที่เหมาะสมและครอบคลุมเกษตรกรส่วนใหญ่ทั่วประเทศไทย และสามารถนำไปใช้จริงในพื้นที่นำร่องกับเกษตรกร เป็นการสร้างความมั่นใจในการประกอบอาชีและความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยพืชผลกรณีประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ แม้ว่าจะมีระเบียบกระทรวงการคลังรองรับแล้วก็ตาม แต่ยังไม่ครอบคลุมความเสียหายทั้งหมด

“การประกันภัยพืชผลการเกษตร โดยภาครัฐจะช่วยชำระเบี้ยประกันผ่าน ธกส.80% และเกษตรกรผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกัน 20% นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีแผนการดำเนินงานจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการของรัฐ เช่น การสนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่เหมาะสม มีตลาดรองรับ และมีรายได้ที่แน่นอน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้นอกจากการประกันภัยข้าว 30 ล้านไร่ ครอบคลุมเกษตรกร 3 ล้านรายแล้ว ขณะนี้ได้เตรียมระบบการประกันภัยสำหรับพืชอื่นไว้ด้วย อาทิ ข้าวโพด ปศุสัตว์ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการระบบประกันภัยได้ในเดือน เม.ย.62” นายกฤษฎา กล่าว

นายกฤษฎา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีประกันภัยข้าวนาปีมาตั้งแต่ปี 54 มีอุปสรรคในการประเมินความเสียหายรายเกษตรกรในเรื่องข้อมูลเกษตรกร ทำให้จ่ายค่าสินไหมอาจล่าช้าไม่ครอบคลุมความเสียหาย ทำให้ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ซี่งการร่วมมือครั้งนี้มีประโยชน์ 3 ประการ เช่น ระบบประกันภัยพืชผลทางการเกษตรที่ครอบคลุมและยั่งยืนขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เพิ่มเสถียรภาพทางการเงินให้เกษตรกร ลดภาระทางการคลังของรัฐบาลในระยะยาว ระบบฐานข้อมูลภาคเกษตรที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยต่อยอดให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เกษตรกรได้หลากหลายมากขึ้น เช่น การทำ Credit scoring ที่แม่นยำขึ้นเพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อให้กับเกษตรกร และสามารถเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอื่นๆ เพื่อต่อยอดทางนโยบายได้ และ Mobile application ที่ครบวงจรขึ้น ทั้งในการส่งเสริมให้เกษตรกรไทยเป็นทั้งผู้สร้าง ข้อมูลที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และผู้ใช้ข้อมูลอย่างมีส่วนร่วม ก่อให้เกิดการพัฒนาระบบฐานข้อมูลภาคเกษตรไปพร้อมๆ กับการเข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี และบริการทางการเงินอย่างยั่งยืนของเกษตรกรไทย

Leave a comment