เตือนสภาพแวดล้อมเหมาะต่อการระบาด ‘โรคไหม้ข้าว’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/360659

เตือนสภาพแวดล้อมเหมาะต่อการระบาด ‘โรคไหม้ข้าว’

เตือนสภาพแวดล้อมเหมาะต่อการระบาด ‘โรคไหม้ข้าว’

วันอังคาร ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 15.42 น.

ช่วงนี้สภาพอากาศของประเทศไทย ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ กลางคืนมีความชื้นสูง กลางวันอากาศร้อน ซึ่งสภาพแวดล้อมเช่นนี้เหมาะต่อการระบาดของโรคไหม้ข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร จึงขอเตือนเกษตรกรที่ปลูกข้าวในทุกภาคของประเทศไทยโดยเฉพาะในแถบภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจากข้อมูลการติดตามสถานการณ์ศัตรูข้าวในแปลงติดตามสถานการณ์ศัตรูพืช พบการทำลายของโรคไหม้ข้าวในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ดังนั้น เกษตรกรจึงมีความจำเป็นต้องสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเริ่มพบอาการของโรคไหม้ เช่น ใบข้าวมีแผล จุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา มีสีเทาอยู่ตรงกลางแผลให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ เพื่อขอคำแนะนำและดำเนินการควบคุมและป้องกันกำจัดทันที

เชื้อราสาเหตุสำคัญของโรคไหม้ข้าว คือ Pyricularia oryzae Cavara หรือ Magnaporthe oryzae โดย ลักษณะการทำลายของโรคไหม้ข้าวสามารถพบได้ทุกระยะการเจริญของต้นข้าว เริ่มตั้งแต่

ระยะกล้า ใบมีแผลเป็นจุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา มีสีเทาอยู่ตรงกลางแผล ความกว้างของแผลประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตร และความยาวประมาณ 10 – 15 มิลลิเมตร แผลสามารถขยายลุกลามและกระจายทั่วบริเวณใบ ถ้าอาการของโรครุนแรงกล้าข้าว จะฟุบแห้งตาย อาการคล้ายถูกไฟไหม้

ระยะแตกกอ อาการที่พบได้ คือ ใบข้าว ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น ขนาดของแผลจะใหญ่กว่าที่พบในระยะกล้า แผลลุกลามติดต่อกันได้ตามบริเวณข้อต่อ ใบจะมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และหลุดจากกาบใบ

ระยะออกรวง (โรคไหม้คอรวง) ในข้าวที่เริ่มออกรวง เมื่อถูกเชื้อราเข้าทำลายเมล็ดจะลีบ ถ้าเชื้อราทำลายในช่วงรวงข้าวแก่ใกล้เก็บเกี่ยว จะปรากฏรอยแผลช้ำสีน้ำตาลที่บริเวณคอรวง ทำให้รวงข้าวเปราะหักง่าย รวงข้าวหลุดร่วงผลิตได้รับความเสียหาย

การแพร่ระบาด ของโรคไหม้ข้าวพบมากในแปลงที่ปลูกข้าวหนาแน่น อับลม ใส่ปุ๋ยในอัตราสูง สภาพอากาศร้อนในตอนกลางวัน และชื้นจัดในตอนกลางคืน อีกทั้งกระแสลมแรงยังเป็นตัวช่วยในการแพร่กระจายโรคได้ดีอีกด้วย

ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคไหม้ข้าวนั้น หากพบอาการของโรคไหม้ข้าว ให้พ่นด้วยเชื้อบีเอส (บาซิลลัส ซับทีลิส) หรือพ่นด้วยเชื้อราไตรโครเดอร์มา(เชื้อสด) อัตราตามคำแนะนำการใช้ หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีให้พ่นเฉพาะบริเวณที่พบการระบาดของโรค เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายเป็นวงกว้าง โดยสารเคมีที่แนะนำ ได้แก่ อิดิเฟนฟอส 50 เปอร์เซ็นต์ อีซี หรือบลาสติซิดิน

– เอส 2 เปอร์เซ็นต์ อีซีหรือไตรไซคราโซล 75 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตราตามคำแนะนำการใช้ ควรพ่นในแปลงนาที่มีประวัติว่าเคยพบการระบาดของโรคและไม่ควรพ่นสารเคมีซ้ำหลายครั้งเพราะจะทำให้เชื้อราจะต้านทานสารเคมี หรือดื้อยา

สำหรับในฤดูกาลเพาะปลูกถัดไป เกษตรกรควรเลือกใช้พันธุ์ต้านทานต่อโรคไหม้ เช่น พันธุ์กข5 กข11 กข27 กข33 (หอมอุบล80) กข37 กข41 กข43 กข47 ชัยนาท1 สันป่าตอง1 สุพรรณบุรี1 สุพรรณบุรี2 สุพรรณบุรี3สุพรรณบุรี60 สุพรรณบุรี90 และคลองหลวง1 ปทุมธานี1 และพันธุ์พิษณุโลก60-2 หว่านเมล็ดพันธุ์ในอัตราที่เหมาะสม 15 – 20 กิโลกรัมต่อไร่ หรือใช้เชื้อราไตรโครเดอร์มา(เชื้อสด) คลุกเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือนำไปแช่บ่มเตรียมการก่อนปลูก หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น ไตรไซคลาโซล , คาซูกาไมซิน , คาร์เบนดาซิม , โพรคลอราซ อัตราตามคำแนะนำการใช้ รวมถึงลดปริมาณการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนลง ซึ่งวิธีนี้อาจมีผลกระทบต่อผลผลิตบ้างแต่จะช่วยให้ข้าวไม่อ่อนแอต่อโรคไหม้

ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2955-1514 , 0-2955-1626

Leave a comment