ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/338400

Pet care : โรคนิ่ว เรื่องที่ทำให้หน้านิ่วและคิ้วขมวด (ตอนจบ)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้รู้จักสาเหตุและอาการที่แสดงออกของสัตว์เลี้ยงที่ประสบปัญหาโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะไปแล้ว วันนี้เรามารู้จักวิธีการรักษากันครับ
@ การรักษาโรคนิ่วทำได้อย่างไร?
การรักษานิ่ว ทำได้ 2 ทางหลัก คือ รักษาทางอายุรกรรมและทางศัลยกรรม
1.การรักษาทางอายุรกรรม ทำโดยการให้ยากิน หรือให้อาหารละลายตะกอนนิ่ว รวมถึงให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อลดการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะร่วมด้วย โดยระหว่างการรักษาจะมีการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยหรืออัลตร้าซาวนด์เพื่อประเมินขนาดของก้อนนิ่วเป็นระยะด้วย
แต่การรักษาทางอายุรกรรมเพียงอย่างเดียวในสุนัขบางตัวอาจไม่ได้ผล เนื่องมาจากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ ก้อนนิ่วอุดตันท่อปัสสาวะ หรือสัตว์ไม่กินยาหรืออาหารละลายก้อนนิ่วอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการไม่ใส่ใจป้อนยาของเจ้าของสัตว์ด้วย เป็นต้น ดังนั้นจึงอาจต้องมีความจำเป็นในการพิจารณาทำการรักษาทางศัลยกรรมร่วมด้วย
2.การรักษาทางศัลยกรรม โดยการวางยาสลบ เพื่อผ่าตัดนำก้อนนิ่วออกจากกระเพาะปัสสาวะ
ในการรักษาโรคนิ่วนั้น สัตวแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการรักษา ซึ่งได้แก่
*การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) เพื่อวิเคราะห์ความเป็นกรดด่างของปัสสาวะและวิเคราะห์ชนิดของผลึกนิ่ว
*เพาะเชื้อและหาความไวต่อยาปฏิชีวนะในน้ำปัสสาวะ (Bacterial culture and Drug sensitivity) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมในการรักษา กรณีที่เกิดการติดเชื้อร่วมด้วย
*ตรวจเลือด (Hematology and Blood chemistry)เพื่อประเมินการติดเชื้อและการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายประกอบการรักษา
*การถ่ายภาพรังสีวินิจฉัย (X-ray) อาจทำการฉีดสารทึบรังสีหรืออากาศเข้ากระเพาะปัสสาวะร่วมด้วยในกรณีที่เป็นนิ่วโปร่งแสง เพื่อหาจำนวน ขนาดและตำแหน่งของก้อนนิ่ว
*อัลตร้าซาวนด์ (Ultrasound) เพื่อตรวจหาก้อนนิ่วและประเมินการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะร่วม
*ตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบนิ่ว เพื่อเลือกวิธีการป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
เมื่อรักษาจนหายแล้ว มีโอกาสจะเกิดขึ้นอีกได้หรือไม่?
คำตอบคือ “มี” โอกาสกลับมาเป็นอีกได้แน่นอนครับ หากการเลี้ยงดูยังคงเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นการดูแลสุนัขหลังการรักษาโรคนิ่ว เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำจึงสำคัญและมีความจำเป็นมาก สิ่งที่ควรทำได้แก่
*ให้อาหารควบคุมการเกิดนิ่วตลอดชีวิต จำพวกอาหารควบคุมแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของนิ่ว
* ให้สัตว์กินน้ำมากขึ้น ทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นลดลงช่วยลดการตกตะกอนนิ่วลง
*ปล่อยให้สัตว์เดินไปปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือจัดที่ให้สัตว์ปัสสาวะสะดวกขึ้น เพื่อลดพฤติกรรมกลั้นปัสสาวะในกรณีสุนัขไม่ชอบขับถ่ายในกรงที่เลี้ยง
สิ่งที่สำคัญ เมื่อเห็นอาการของเจ้าตูบและเจ้าเหมียวเริ่มอาการปัสสาวะผิดปกติ ปัสสาวะไม่ค่อยออก ปัสสาวะบ่อยมีเลือดหรือสิ่งแปลกปลอมปนมากับน้ำปัสสาวะ หรือมีอาการผิดปกติใดๆ อย่าชะล่าใจนะครับ รีบพาไปพบสัตวแพทย์ปัญหาต่างๆ จะได้แก้ไขตั้งแต่ระยะแรก และทำให้สัตว์ฟื้นตัวได้เร็วจะได้ไม่เสียใจภายหลังครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย