‘สวนสัตว์สู่ชุมชน’ร่วมใจอนุรักษ์ ผ่านงานศิลปะ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/341401

‘สวนสัตว์สู่ชุมชน’ร่วมใจอนุรักษ์ ผ่านงานศิลปะ

‘สวนสัตว์สู่ชุมชน’ร่วมใจอนุรักษ์ ผ่านงานศิลปะ

วันจันทร์ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

กลุ่มบริษัท นานมี ร่วมกับ สวนสัตว์ดุสิต และสวนสัตว์เขาเขียว จัดโครงการ “สวนสัตว์สู่ชุมชน” เพื่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีใจเมตตา เกิดความรักและหวงแหนสัตว์ป่า ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านการเรียนรู้งานศิลปะ มีกิจกรรมต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีโดยตระเวนไปยังเขตต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ในปีนี้ได้เริ่มโครงการที่โรงเรียนวัดเจ้ามูล เขตบางกอกใหญ่ มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการ จำนวนกว่า 100 คนณ โรงเรียนวัดเจ้ามูล จรัญสนิทวงศ์ 8

ปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทนานมี กล่าวว่า เด็กๆ ทุกคนชอบไปสวนสัตว์เพื่อไปดูสัตว์ชนิดต่างๆ แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนจะมีโอกาสเดินทางไปสวนสัตว์ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ดังนั้น การนำสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์มาเล่าเป็นเรื่องราวให้แก่น้องๆ ที่ไม่มีโอกาส จึงเป็นความตั้งใจที่ทำให้ผู้ใหญ่ใจดี อย่าง นานมี, เขาดินและเขาเขียว จับมือร่วมกันทำโครงการนี้ขึ้นมา สังเกตเด็กๆ มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สิ่งที่วันนี้พี่ๆ มาก็เพื่อมาบอกและย้ำกับน้องๆ ว่า สัตว์ป่าก็เหมือนพวกเราทุกคนมีชีวิตและการดำรงชีวิตตามธรรมชาติสัตว์มีสิทธิเป็นของตนเอง เราทุกคนจำเป็นต้องเคารพในสิทธิของสัตว์ ไม่ทำร้ายและทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมาน

พี่ๆ จากสวนสัตว์ดุสิตและสวนสัตว์เขาเขียวได้ให้ความรู้เรื่องสัตว์ป่า สัตว์แปลกๆและสัตว์หายาก ลักษณะทางกายภาพ จุดเด่นการดำรงชีวิต พื้นที่อยู่อาศัย สอดแทรกเกร็ดความรู้อย่างสนุกสนาน พร้อมกันนี้พี่ๆ จากนานมีสอนให้น้องๆ วาดและระบายสีรูปสัตว์ เป็นการสร้างความสุขและประสบการณ์ใหม่ๆ ให้น้องๆ เกิดแนวคิดและจินตนาการเรื่องสัตว์อย่างรอบด้าน

ด.ช.ศิวฤทธิ์ สุนทรากร หรือ น้องนัท อายุ 6 ขวบ เล่าว่า “วันนี้สนุกมากครับ ได้รู้จักกับสัตว์หลากหลายชนิด บางชนิดเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะเจ้าเสือดำ พี่ๆ บอกว่าเสือดำไม่ได้มีสีดำตลอดทั้งตัว อาจจะมีสีอื่นรวมอยู่ด้วยและบางตัวก็เป็นสีดำที่เข้มและอ่อนไม่เท่ากัน อยากให้สัตว์ป่าได้อยู่ที่ป่า ซึ่งเป็นบ้านของมันอย่างสงบสุขไม่อยากให้มีใครไปทำร้ายหรือรังแกมัน พวกมันจะได้เติบโตและอยู่อย่างแข็งแรงปลอดภัยในป่าใหญ่ครับ” ส่วน ด.ญ.ศิวนาถ ผานัด หรือน้องแตงโม อายุ 6 ขวบ บอกว่า “ได้รู้จักสัตว์หลายชนิดเลย ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง ที่ชอบที่สุดคือ หมูค่ะ มีชื่ออีกชื่อเรียกว่าสุกร เคยเห็นหมูใกล้ๆ มันมีตัวที่อ้วนกลมน่ารัก กินจุมากๆ และที่ตลกมากคือมันชอบเอาตัวไปคลุกโคลนด้วย วันนี้ลองวาดรูปหมูตอนที่มันเพิ่งอาบน้ำตัวสะอาดมีสีชมพูสดใสน่ากอดค่ะ” ด้าน ด.ช.ศิลกร สวนพิมาย หรือน้องเซฟ อายุ 6 ขวบ เล่าว่า “ชอบเสือ เพราะดูมีความแข็งแกร่งเป็นผู้นำในป่า ได้รู้จักเสือโคร่งพี่ๆ บอกว่า ลายของเสือโคร่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเสือแต่ละตัว เปรียบเสมือนเป็นลายนิ้วมือหรือบัตรประชาชน เสือแต่ละตัวที่เราเห็นว่ามันเหมือนกันจึงแตกต่างกันด้วยลายบนตัวนั่นเอง ตอนนี้ประเทศไทยมีเสือโคร่งเหลืออยู่ไม่มากใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว สงสารมันครับ มันก็รักชีวิตเหมือนกันไม่อยากให้มนุษย์จับมันมากินหรือเอาหนังหรือส่วนต่างๆ อยากให้มันได้เป็นผู้นำในป่าต่อไป อยากให้คนไทยช่วยดูแลป่า อย่าตัดต้นไม้ในป่า ดูแลสัตว์ป่าที่เป็นเหมือนบ้านของพวกมัน สัตว์ทั้งหลายจะได้มีความสุข ผมก็มีความสุขครับ”

เด็กๆ ที่ถูกกล่อมเกลาให้มีความรักและเมตตาต่อสัตว์ เมื่อเติบโตขึ้นมาจะกลายเป็นคนที่รู้จักการแบ่งปัน และรู้จักเอื้ออารีและเคารพในสิทธิของทั้งมนุษย์และสัตว์ ไม่เบียดเบียนหรือทำร้าย เพื่อให้พวกเราอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข

Leave a comment