Pet care : การเลือกแชมพูให้กับสุนัข

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/344216

Pet care : การเลือกแชมพูให้กับสุนัข

Pet care : การเลือกแชมพูให้กับสุนัข

วันอาทิตย์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.

สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้คุยกันเรื่องการอาบน้ำให้น้องหมากันไปแล้ว สัปดาห์นี้เรามาคุยกันต่อเรื่องการเลือกแชมพูสำหรับสุนัขกันครับ

หลายคนสงสัยว่า เราสามารถเอาแชมพูของคนมาใช้ให้สุนัขแทนเลยได้หรือไม่?  บางคนบอกเราว่าใช้แชมพูสำหรับเด็กมาอาบให้สุนัขและแมวก็น่าจะได้ เพราะเด็กผิวอ่อนกว่าผู้ใหญ่ยังใช้ได้เลย ทำไมสุนัขจะใช้ไม่ได้ล่ะ!?!

ขอเรียนว่า ความคิดนี้เป็น “ความคิดที่ผิด” อย่างมากเลยครับ

การนำแชมพูของคนมาใช้อาบสัตว์เลี้ยงนั้น เป็นสิ่งไม่ควรทำ เนื่องจาก ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของผิวหนังคนกับสัตว์นั้น มีความ “แตกต่างกัน” ครับ

โดยปกติ ผิวหนังสุนัขนั้นมีค่า pH = 7.5 ซึ่งมีสภาวะเป็น“ด่างอ่อนๆ” (ความเป็นกลางของน้ำบริสุทธิ์มีค่าเท่ากับ 7) แต่ผิวหนังของคนมีค่า pH เท่ากับ 5.5 ซึ่งมีสภาวะเป็น “กรดอ่อนๆ” ซึ่งถือว่าไม่เหมือนกันเลยครับ

แชมพูสุนัขที่ดีจึงมีค่า pH ที่ 6.5-7.5 เพื่อไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองผิวหนัง

แชมพูที่มีสภาวะเป็นกรดมากเกินไป จะไปทำลายไขมันที่คลุมผิวหนัง ทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น เกิดอาการคันผิวหนัง ทำให้สุนัขเกา และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนังอักเสบติดเชื้อ รวมถึงขนร่วงตามมาได้ครับ

นอกจากนี้ ผิวหนังของสุนัขไวต่อการแพ้มากกว่าด้วยเนื่องจากความหนาของชั้นผิวหนังของสุนัขจะน้อยกว่าของคน ดังนั้นสารเคมีในแชมพูจะทำให้เกิดความระคายเคืองได้ง่ายกว่าด้วยครับโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในลูกสัตว์หรือสัตว์ที่มีผิวหนังที่แพ้ง่าย เจ้าของยิ่งต้องเลือกแชมพูที่มีสูตรอ่อนโยน (hypoallergenic) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังด้วย

แชมพูสำหรับสุนัขในเชิงสัตวแพทย์นั้นมีหลายประเภทขึ้นกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ได้แก่ แชมพูแบบสูตรอ่อนเพื่อลดการระคายเคืองผิวหนัง แชมพูกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่ผิวหนัง แชมพูบำรุงขน แชมพูสำหรับสุนัขโทนสีต่างๆ รวมถึงแชมพูกำจัดเห็บ เป็นต้น

ดังนั้น การเลือกใช้แชมพูในสุนัขนั้น จึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของสัตว์เลี้ยง

หากสัตว์เลี้ยงของท่านมีปัญหาทางด้านผิวหนังแล้ว ควรขอรับคำปรึกษาสัตวแพทย์จะดีกว่า เพราะอาจต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของความผิดปกตินั้น จึงจะเลือกแชมพูที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงของเราครับ

“น้ำ” ที่ใช้อาบ ก็ควรเป็นน้ำที่มีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง (อุณหภูมิปกติ ณ เวลานั้นนั่นเอง) ซึ่งไม่ควรใช้น้ำที่มีอุณหภูมิที่สูงเกินไป (น้ำอุ่นหรือร้อน) เพราะการอาบน้ำด้วยน้ำที่อุ่นจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังเกิดการขยายตัว โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ จะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบมากขึ้น ผิวก็จะแห้งมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สัตว์เกิดอาการคันมากขึ้นด้วย

การฟอกแชมพู (โดยเฉพาะแชมพูยา) ก็ควรที่จะเอาแชมพูละลายน้ำให้เจือจางก่อนแล้วจึงชะโลมให้ทั่วตัว ไม่ควรนำแชมพูเทลงบนฝ่ามือแล้วถูบนตัวสัตว์ทันทีเพราะความเข้มข้นของแชมพูที่มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังของสัตว์ได้ครับ

หลังจากการฟอกแชมพูยา (รวมถึงแชมพูกำจัดเห็บหมัด)ก็ควรทิ้งแชมพูไว้บนตัวสัตว์อย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อให้ตัวยาในแชมพูออกฤทธิ์ได้เต็มที่ (แต่ที่สำคัญ ต้องอย่าให้สุนัขเลียแชมพูเด็ดขาดครับ) เราควรนวดคลึงผิวหนัง หรือเกาเบาๆ เพื่อให้ยากระจายได้ทั่ว และเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของสุนัขไม่ให้เขาเลียแชมพูด้วยครับ  หลังจากนั้น ก็ต้องล้างแชมพูออกด้วยน้ำสะอาดให้เกลี้ยง แล้วเช็ดตัวให้แห้งหรือเป่าตัวให้แห้งด้วย “ลมเย็น” หรือที่“ไม่ร้อนเกินไป”

เห็นไหมครับการอาบน้ำและการใช้แชมพูเพื่อให้สุนัขของเราได้ประโยชน์มากที่สุดนั้น ก็เป็นทั้ง “ศาสตร์และศิลป์” เพียงแค่เราดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของเราในการอาบน้ำ ก็จะทำให้สัตว์เลี้ยงของเรามีสุขภาพผิวหนังและขนที่ดีขึ้นและลดอาการคันที่เกิดจากการติดเชื้อลงได้ครับ

ลืมบอกไปครับว่า ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เมื่อเจ้าตูบเล่นซนจนตกน้ำมอมแมมเลอะเทอะ แต่บังเอิญแชมพูสำหรับสุนัขหมดพอดี เราก็สามารถใช้แชมพูคนอาบให้ “แก้ขัด” ไปก่อนได้ครับ ไม่ได้หมายความว่าจะห้ามใช้เลย  เพราะการใช้เพียง 1 หรือ 2 ครั้ง ก็ไม่ถึงกับทำให้เกิดปัญหาหนักหน่วงอะไร ดีกว่าปล่อยให้เจ้าตูบตัวเหม็นอยู่อย่างนั้นนะครับ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร

คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Leave a comment