ติงรัฐโซนนิ่ง‘สวนยาง’ สภาเกษตรฯชี้ต้องทำร่วมกับพืชเศรษฐกิจอื่น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/370700

x

ติงรัฐโซนนิ่ง‘สวนยาง’ สภาเกษตรฯชี้ต้องทำร่วมกับพืชเศรษฐกิจอื่น

วันพุธ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์ ประธานคณะกรรมการด้านยางพารา สภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการด้านยางพารา สภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เสนอโครงการลดการกรีดยางเพื่อเป็นการลดซัพพลายออกจากสวนยาง ซึ่งหากรัฐบาลนำไปปฏิบัติได้ก็จะเกิดประโยชน์ ส่วนกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.เศรษฐกิจการเกษตร พ.ศ.2522 มาตรา 5 กำหนดเขตพืชเศรษฐกิจยางพาราเป็นชนิดแรก เกษตรกรและสภาเกษตรกรฯมีการหารือกันว่าจำเป็นต้องใช้ไหม และมองว่าการใช้กับยางพาราอย่างเดียวไม่น่าจะเกิดประโยชน์ อยากให้ครอบคลุมไปถึงพืชชนิดอื่น เช่น ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเกษตรกรมีทั้งบุกรุกป่า และป่าบุกรุกพื้นที่เกษตรกร ซึ่งต้องมีแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา ทั้งจากกรณีมีเอกสารสิทธิไม่บุกรุกป่าและบุกรุกป่า กับไม่มีเอกสารสิทธิบุกรุกป่าและไม่บุกรุกป่า ส่วนที่เกษตรกรบุกรุกป่าจริงมาตรการเยียวยาอาจไม่ครอบคลุมและทั่วถึงซึ่งต้องเข้าไปแก้ปัญหาในเรื่องของสิทธิทำกินก่อน

“การประกาศโซนนิ่งจะทำให้เกษตรกรมีการจัดการอย่างมีคุณภาพ ผลผลิตมีปริมาณมากขึ้น ต้นทุนต่ำ คุณภาพสูงเพราะเป็นการปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสม ภาคเหนือ ภาคอีสานถ้าเป็นพื้นที่ไม่เหมาะสมรัฐควรจะต้องมีนโยบายในเรื่องของการปรับเปลี่ยนถ้ายังไม่สามารถควบคุมได้ก็ต้องลดการช่วยเหลือ ซึ่งนั่นหมายถึงเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์หรือว่าไม่ปลูกในโซนนิ่งก็ไม่สามารถรับการช่วยเหลือได้ การจัดโซนนิ่งจึงจะเกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าประกาศแล้วพื้นที่ยังเหมือนเดิมไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรก็เปล่าประโยชน์ แต่ถ้าพื้นที่นั้นไม่เหมาะสมทางกยท.ก็จะมีทางเลือกให้ เช่น ปลูกปาล์มน้ำมัน ไม้เศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงได้ เข้าใจว่ายางพาราใช้เวลาปลูก 25-30 ปี จะให้เกษตรกรโค่นยางขณะที่กำลังได้ผลผลิตก็เป็นไปได้ยาก หากเกษตรกรจะโค่นยางเก่าแล้วขอปลูกยางใหม่ถ้าพื้นที่มีความเหมาะสมทางการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)ก็สามารถอนุมัติให้ปลูกใหม่ได้” นายธีรพงศ์ กล่าว

Leave a comment