รมว.เกษตรฯยัน’ข้าวหอมมะลิไทย’ยังครองตลาดโลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/372143

รมว.เกษตรฯยัน'ข้าวหอมมะลิไทย'ยังครองตลาดโลก

รมว.เกษตรฯยัน’ข้าวหอมมะลิไทย’ยังครองตลาดโลก

วันอังคาร ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561, 16.24 น.

23 ต.ค.61 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการประกวดข้าวโลกปี 2018 ในการประชุมสัมมนาข้าวโลก (World Rice Conference 2018) ที่เวียดนาม ซึ่งผลการประกวดปรากฎว่า ข้าวหอมมะลิกัมพูชา “มาลี อังกอร์” ได้ที่ 1 ในขณะที่ข้าวหอมมะลิไทย ได้ที่ 2 และข้าวหอมมะลิเวียดนาม
พันธุ์ ST24 ได้ที่ 3 นั้น ว่า การประกวดข้าวหอมมะลิโลกได้เริ่มมาตั้งแต่ ปี 2552 ที่เมืองเซบู ฟิลิปปินส์ เป็นครั้งแรก โดยข้าวหอมมะลิไทย ได้ที่ 1 และต่อมาก็มีการจัดต่อเนื่องทุกปี มาจนในปีนี้เป็นปีที่ 10 นั้น สำหรับข้าวหอมมะลิไทย เราได้รางวัลที่ 1 บ้าง ที่ 2 บ้าง สลับไปมา

โดยสรุป ข้าวหอมมะลิไทย ได้ที่ 1 มา 5 ครั้งแล้ว ผลการประกวดข้าวโลกในเวทีดังกล่าว ข้าวหอมมะลิไทย และข้าวหอมมะลิของกัมพูชา และสหรัฐอเมริกา ก็จะผลัดกันครองรางวัลที่ 1 กับที่ 2 บ้าง บ้างปีก็ครองชนะเลิศด้วยกันมาโดยตลอด ไม่ใช่ว่าข้าวหอมมะลิไทยได้ที่ 2 เป็นครั้งแรก ประกอบกับการประกวดดังกล่าวก็เป็นการจัดของสมาคมผู้ค้าข้าวระหว่างประเทศ ที่เชิญชวนพ่อค้าเอกชน หรือสมาคมค้าข้าวของแต่ละประเทศส่งเข้าประกวด ดังนั้น บางปีก็จะมีผู้ส่งเข้าประกวดมากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความพร้อมของแต่ละบริษัทหรือสมาคมที่จะส่งเข้าประกวดด้วย ดังนั้น ผลการประกวดจึงไม่น่ามีผลต่ออนาคตข้าวหอมมะลิไทยตามที่หลายฝ่ายกังวล ประกอบกับรองอธิบดีกรมการข้าวได้พูดคุยกับ นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์  นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ก็ได้ยืนยันว่า การได้รางวัลที่ 1 ของข้าวหอมมะลิ “มาลี อังกอร์” ไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าการส่งออกข้าวไทยแต่อย่างใด

รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า นโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ในขณะนี้นั้น จะเน้นการดูแลรักษาระดับราคาข้าวไทยให้ราคาขายต้องไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต เพื่อให้ชาวนาไทยมีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่าย ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการทำเกษตรอย่างอื่นในพื้นที่นาที่ไม่เหมาะสม หรือในพื้นที่ผลิตข้าวส่วนเกินความต้องการของตลาดไปปลูกพืชอื่นๆ หรือทำการเกษตรกรรมอย่างอื่นที่มีรายได้มากกว่าหรือเท่ากับการปลูกข้าว เพื่อรักษาปริมาณผลผลิตข้าวไทยไม่ให้ล้นตลาด ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวตกต่ำเป็นปัญหาให้ขาวนามาร้องเรียนขอรับความช่วยเหลือจากรัฐด้วยโครงการใช้งบประมาณจำนวนมากๆ เข้าไปช่วยเหลือเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายนโยบายเน้นย้ำให้กรมการข้าว และกรมวิชาการเกษตร ให้ทำการศึกษและวิจัยข้าวไทยอยู่เป็นระยะๆ เพื่อนำผลสรุปของการศึกษาวิจัยมาปรับปรุงพันธ์ุข้าวไทย และการบำรุงรักษาคุณภาพข้าวไทยให้ได้รับความนิยมจากตลาดและผู้บริโภคไว้ด้วย

Leave a comment