จับคู่ผู้ประกอบการ-นาแปลงใหญ่ เชื่อมโยงตลาดข้าว‘GAP’ปีการผลิต61/62

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/373184

x

จับคู่ผู้ประกอบการ-นาแปลงใหญ่ เชื่อมโยงตลาดข้าว‘GAP’ปีการผลิต61/62

วันจันทร์ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นายกฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล รองอธิบดีกรมการข้าว รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ในอดีตที่ผ่านมาการบริหารจัดการข้าวของประเทศมีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องผลผลิตข้าวมากกว่าปริมาณความต้องการของตลาด อีกทั้งชนิดข้าวที่ชาวนาปลูกไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ ชาวนาไม่มีแรงจูงใจปรับปรุงคุณภาพข้าว เนื่องจากราคาข้าวคุณภาพกับราคาข้าวทั่วไปไม่แตกต่างกัน ฉะนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงมีนโยบายปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวไทย โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันจัดทำแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยใช้ตลาดนำการผลิต เพื่อสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์-อุปทาน ที่สำคัญยังมีการเชื่อมโยงตลาดข้าว GAP เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตข้าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด สร้างแรงจูงใจการผลิตข้าวคุณภาพที่มีตลาดรองรับแน่นอน และจำหน่ายได้ราคาที่สูงกว่าข้าวทั่วไปตามคุณภาพที่เพิ่มขึ้น

กรมการข้าวมีบทบาทหลักในการส่งเสริมการผลิตข้าวให้ได้คุณภาพ และพัฒนาชาวนาให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพให้มีความมั่นคงยั่งยืน ซึ่งโครงการส่งเสริมนาแปลงใหญ่ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำให้เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่ม สะดวกต่อการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ นำไปสู่การปฏิบัติของเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ มุ่งเน้นส่งเสริมการผลิตข้าวตามหลักทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม หรือ GAP (Good Agriculture Practices) ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มนาแปลงใหญ่ พร้อมกับสนับสนุนปัจจัยการผลิต เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตข้าวคุณภาพ สามารถเชื่อมโยงการตลาดข้าว GAP โดยปีการผลิต 2561/62 มีเป้าหมายจับคู่ธุรกิจทำ MOU ระหว่างผู้ประกอบการค้าข้าวกับกลุ่มนาแปลงใหญ่ที่ผลิตข้าวมาตรฐาน GAP และข้าวอินทรีย์ จำนวน 850 ฉบับ

“การบริหารจัดการแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ ชาวนามีการผลิตข้าวที่มีคุณภาพมาตรฐาน และผลิตข้าวโดยใช้ตลาดนำการผลิตทำให้ราคาข้าวในท้องตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งยังทำให้ข้าวไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก สะท้อนถึงความสำเร็จของโครงการนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตัวเกษตรกรเองก็มีการรวมกลุ่มกันทำนาแปลงใหญ่ ผลิตข้าวมาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานอินทรีย์ บางส่วนก็ปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับการปลูกข้าวไปปลูกพืชอื่นเพื่อสร้างรายได้ทดแทน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเข้มแข็งและความสำเร็จในการแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” นายกฤษณพงศ์ กล่าว

Leave a comment