ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/373851

ตัวแทนเกษตรกรห่วงระเบียบคุม3สารเคมีบังคับใช้ยาก แนะแก้ไขสอดคล้องความเป็นจริง
เมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. 2561ที่ผ่านมา มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นกรณีมาตรการควบคุมการใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ประกอบด้วยพาราควอด (Paraquat) ไกลโฟเซต (Glyphosate) และคลอร์ไพริฟอส (Chlorpyrifos) ณ รร.ทีเคพาเลซ ถ.แจ้งวัฒนะ ย่านหลักสี่ กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้คนจากหลายภาคส่วนให้ความสนใจเข้าร่วมประชุมราว 250 คน เพื่อระดมความคิดเห็น
โดย นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัยตั้งข้อสังเกตว่า ระเบียบที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอนั้นมีข้อจำกัดในการปฏิบัติของเกษตรกรหลายประเด็น อาทิ กรอบเวลาในการอบรมเกษตรกรทั่วประเทศ จำนวนกว่า 20 ล้านรายในระยะเวลา 90 วันหลังจากประกาศอนุมัติ เป็นสิ่งที่ดำเนินการจริงได้ยากด้วยระยะเวลาที่น้อยแต่ผู้ที่ต้องอบรมมีจำนวนมาก
ซึ่งหากกรมวิชาการเกษตรไม่สามารถปฏิบัติได้ ก็จะทำให้มีกลุ่มคนที่ต่อต้านสารเคมีเกษตรออกมาเรียกร้องให้แบนสารเคมีอีก นอกจากนี้ควรมีหลักการและแนวทางปฏิบัติที่เป็นในทิศทางเดียวกันในสารเคมีทุกชนิด โดยให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติและใช้สารเคมีของเกษตรกรเป็นหลัก คำนึงถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติจริง เพื่อยกระดับเกษตรปลอดภัยของประเทศไทยให้เป็นระบบอย่างยั่งยืน
“การไม่สามารถปฏิบัติได้ตามระเบียบที่ออกมา บทลงโทษจะตกอยู่ที่เกษตรกรการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ใหญ่บ้านกำนัน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนั้นไม่มีความเหมาะสมเพราะขาดองค์ความรู้ด้านเกษตรกรรม ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ทั้งที่ในความเป็นจริงควรเป็นบุคลากรของกรมวิชาการเกษตรเอง”นายสุกรรณ์ กล่าว
นายสุกรรณ์ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะนำข้อมูลผลวิเคราะห์ และการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่รวบรวมได้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สารเคมีเกษตร นำยื่นต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายโดยเร็วที่สุด เพื่อนำไปสู่การพิจารณาตัดสินใหม่ให้สามารถใช้สารเคมีได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในกรมวิชาการเกษตรว่า จะนำส่งข้อมูลและความคิดเห็นจากกลุ่มเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องในครั้งนี้ให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย