‘ขอให้วาฬหัวทุยเป็นเหยื่อตัวสุดท้าย’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/379754

x

‘ขอให้วาฬหัวทุยเป็นเหยื่อตัวสุดท้าย’

วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ขณะที่การรณรงค์ลดขยะพลาสติกบนโลกดำเนินไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง  ด้วยทุกประเทศตระหนักแล้วว่า ปัญหานี้เข้าขั้นวิกฤติ  หากยังไม่ทำอะไร ขยะที่ล้นโลกจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  เกิดมลพิษที่ย้อนกลับมาทำลายสุขภาพ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ในที่สุด แต่ขยะพลาสติกที่เกิดจากการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ได้สร้างปัญหาเบียดเบียนชีวิตสัตว์ทั้งบนบก ในทะเล ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอีกครั้ง

ล่าสุด เป็นเหตุสลดใจเกิดขึ้นในอินโดนีเซีย หนึ่งในประเทศที่ประสบปัญหาขยะเกลื่อนทะเลเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน ที่สื่อต่างประเทศได้แพร่ภาพซากวาฬหัวทุยเกยตื้นในอุทยานแห่งชาติวากาโตบีของอินโดนีเซีย หลังเจ้าหน้าที่ผ่าพิสูจน์ซากวาฬเคราะห์ร้ายตัวดังกล่าว เพื่อหาสาเหตุการตาย ก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบขยะพลาสติกในท้องวาฬเกือบ 6 กิโลกรัม

ประกอบด้วย ถ้วยพลาสติก 115 ใบ  ถุงพลาสติก 25 ใบ และขยะอื่น เช่น รองเท้าแตะและเศษผ้าใบ รวมถึงขวดพลาสติก 4 ใบ และเชือกปาล์ม นับเป็นเรื่องน่าเศร้าใจหนึ่งในหลายล้านกรณี ที่เกิดขึ้นหลายประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทย ซึ่งยังเกิดกรณีสัตว์ป่ากินขยะพลาสติกที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ ล้มตายไปนักต่อนัก

สำหรับอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่ผลิตขยะทางทะเลมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน โดยประเมินว่าแต่ละปีมีขยะมากถึง 1.29 ล้านเมตริกตัน ปัญหาขยะเคยถึงขั้นวิกฤติจนทำให้ทางการต้องประกาศ “ภาวะฉุกเฉินขยะ”เมื่อปีที่แล้ว หลังพบขยะเกลื่อนแนวชายหาดความยาว 6 กิโลเมตรของเกาะบาหลี ทางการอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะลดขยะพลาสติกในทะเลลงให้ได้ 70% ภายในปี 2568

ข่าวสัตว์ทะเลซึ่งต้องประสบชะตากรรม จากขยะที่มนุษย์สร้างขึ้นในอินโดนีเซีย ทำให้ ย้อนมาดูสถานการณ์ในประเทศไทย  ที่ปัญหาขยะพลาสติกหนักหนาสาหัสอยู่ รัฐบาลเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง ลุยทำแผนลดขยะประเภทนี้ ทั้งออกมาตรการรณรงค์ในส่วนประชาชน องค์กรทุกภาคส่วน พร้อมหาวิธีจัดการขยะพลาสติกทั้งรีไซเคิล กำจัดด้วยวิธีฝังกลบ เผาทำลาย ตั้งเป้าลดปริมาณขยะให้ได้มากที่สุด และควบคุมไม่ให้เพิ่มมากกว่านี้  เรียกว่าเป็นประเด็นร้อน ต้องระดมความเห็นระดับชาติ

ที่น่าสนใจและรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ ขยะพลาสติกในแม่น้ำ ทะเล และอุทยานแห่งชาติ โดยออกแนวทางปฏิบัติเข้มข้นเป็นระยะ มุ่งลดปริมาณขยะในพื้นที่เหล่านี้ให้ได้ มีการตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติก ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จากนั้นตั้งคณะทำงานสนับสนุนการบริหารจัดการขยะพลาสติกอีก 3 คณะ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายลดขยะพลาสติกในทะเลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี2570

จากข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขยะในทะเลล้วนไหลมาจากบนบก บวกขยะจากแม่น้ำ ขยะในคลองกลางกรุงก็ลงทะเล 70% ไทยสร้างขยะ 27 ล้านตัน เป็นขยะพลาสติก 2 ล้านตัน  ขยะทะเลที่พบอันดับ 1 คือ ถุงพลาสติก ตามด้วยหลอด ฝาพลาสติก ภาชนะบรรจุอาหาร สัตว์น้ำ 200 ชนิด ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ซากวาฬ ปลา เต่า เสียชีวิต พบเศษพลาสติกในร่างกายเหมือนกรณีวาฬหัวทุยที่อินโดนีเซียล่าสุดแทบทั้งสิ้น

เหล่านี้เป็นที่มาของนโยบายแข็งขันของรัฐบาลจับมือเอกชนลดขยะพลาสติก ทั้งยกเลิกพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม หรือ Cap Seal งดนำเข้าโฟม ถุงหูหิ้วเข้าอุทยานฯ  หันมาใช้ภาชนะใส่หรือบรรจุอาหารที่นำมาใช้ซ้ำได้ กระทั่งบูรณาการระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวฯและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ หันมาใช้ปิ่นโตใส่อาหาร โดยการสนับสนุนของเอกชนผู้ผลิต นำร่องไปใช้ในพื้นที่อุทยานทางทะเลจุดแรก ตั้งเป้าลดปริมาณขยะจากบนบกลงทะเล ลดการสูญเสียสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ให้มากที่สุด

ความพยายามที่แข็งขันต่อเนื่องจากทุกภาคส่วน เพื่อลดขยะพลาสติก ไปจนถึงการแก้ปัญหาขยะเกลื่อนทะเล เกลื่อนอุทยานจะได้ผลยั่งยืน ต่อเมื่อทุกคนตระหนักว่า สถานการณ์วิกฤติแล้ว ไม่อยากเห็นภาพสัตว์ล้มตายเพราะกลืนกินขยะอีกต่อไป แล้วก็เริ่มที่ตัวเองลงมือทำ
วาฬหัวทุยก็จะเป็นเหยื่อรายสุดท้าย

Leave a comment