ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/381356

กฤษฏาสวนนักการเมืองถล่มแผนแก้ราคายาง ชี้ดีดขึ้นโลละ2สลึงแล้ว
กฤษฏาสวนนักการเมืองถล่มแผนแก้ราคายาง ชี้ดีดขึ้นโลละ2สลึงแล้ว
6 ธ.ค.61 นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับบริษัทผู้ผลิตล้อยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก 6 แห่งที่ตั้งโรงงานในไทย ว่า ได้เชิญทั้ง 6 บริษัทมารับทราบแนวทางของรัฐบาลในการยกระดับราคายางพารา โดยขอความร่วมมือให้เพิ่มกำลังการรับซื้อยางมากขึ้น จากปัจจุบันที่ใช้ยางแผ่นในการผลิตล้อยางปีละ 4.82 แสนตัน ซึ่งผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือ แต่มีข้อเสนอเงื่อนไขว่ากระทรวงเกษตรฯต้องหาผู้ขายยางที่น่าเชื่อถือ และมีคุณภาพดี ส่งได้ทันตรงเวลากำหนด เพราะปัจจุบันซื้อจากบริษัทส่งออกยาง 5 เสือรายใหญ่เท่านั้น หากซื้อรายอื่นกังวลเรื่องศักยภาพส่งมอบยางได้ทันตามเวลา และคุณภาพ ตนจึงให้การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ คัดเลือกสถาบันเกษตรกรที่มีศักยภาพ เช่น สหกรณ์เกษตรกรชาวสวนยาง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรีและสหกรณ์หลายแห่งที่มีความเข้มแข็งแปรรูปยางส่งออก
นายกฤษฏา กล่าวอีกว่า ทั้ง 6 บริษัทล้อยาง ยังระบุว่าทุกวันนี้เวลาจะซื้อยางไม่ได้ซื้อในตลาดในประเทศไทย แต่ไปซื้อยางในตลาดโตคอม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น , ตลาดไซคอม ประเทศสิงคโปร์ เมื่อได้ราคายางที่สิงคโปร์ จึงทำสัญญาซื้อขายที่ต่างประเทศ และบริษัท 5 เสือส่งยางในไทยให้ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้
“ถ้าจะให้ยางขึ้นราคาก็ต้องทำให้ไทยเป็นตลาดที่น่าเชื่อถือเหมือนต่างประเทศ ซึ่งผู้ผลิตล้อยางไปซื้อจากต่างประเทศ และราคาก็แตกต่างจากตลาดในไทย ส่วนจะได้ราคาแพงหรือถูกเป็นเรื่องการขึ้น-ลงแต่ละวันเหมือนตลาดหุ้น โดยสาเหตุที่บริษัทล้อยางไปซื้อที่นั่น เพราะหากซื้อในไทยจะไม่มีใครรับรองการส่งยาง และบริษัท 5 เสือไปทำการซื้อขายที่ตลาดต่างประเทศ ผมจึงสั่งให้ กยท.เร่งศึกษาภายใน 7 วัน ให้ได้ข้อสรุปว่าทำอย่างไร ให้ กยท.ซื้อขายยางกับบริษัทล้อยาง ทั้งดูแลคุณภาพยาง การส่งมอบ หากมาซื้อที่ไทย จะปรับสัญญาอย่างไร” นายกฤษฏา กล่าว
นายกฤษฏา ระบุว่า ทั้ง 6 บริษัทยืนยันว่าไม่เคยซื้อยางจากเกษตรกรไทยโดยตรง แต่ไปซื้อขายที่ตลาดต่างประเทศ นำกลับมาผลิตในไทย ถ้ามีบริษัทหรือสหกรณ์ส่งมอบยางให้ตรงตามเวลา และมีคุณภาพ ยินดีให้ความร่วมมือ
สำหรับมาตรการระยะกลางถึงระยะยาว ทางภาคเอกชนขอให้ลดขั้นตอนการออกใบอนุญาตตั้งโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรวดเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้การขออนุญาตต้องทำ 3 ขั้นตอน เรื่องอนุญาตตั้งโรงงาน ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และต้องไปขออนุญาตจากท้องถิ่นด้วย ขอให้มาอยู่ในขั้นตอนเดียว ซึ่งต้องการให้เอกชนกลับมาซื้อยางและลงทุนในไทย รัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ จะหาสหกรณ์ที่เข้มแข็ง รองรับขยายฐานการผลิต
นายกฤษฏา กล่าวอีกว่า ตามที่มีผู้วิจารณ์กระทรวงเกษตรฯ กยท.คิดหาแต่มาตรการเฉพาะหน้า ไม่มีผลทำให้ยางราคาขึ้นได้นั้น ตนยืนยันว่าการช่วยเหลือค่าครองชีพจ่ายไร่ละ 1.8 พันบาท สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรสวนยางได้ พร้อมระดมมาตรการใช้ยางพาราทำถนน ทำให้วันนี้ราคายางขยับขึ้นอีก 50 สตางค์ มั่นใจว่าราคาจะขึ้นไปเรื่อยๆ รวมทั้งมาตรการให้เงินกู้ 5 พันล้านบาทกับสถาบันเกษตรกร สหกรณ์ เข้ารับซื้อน้ำยางจากเกษตรกร มาแปรรูปส่งออก และ ครม.อนุมัติงบซื้อยาง 200 ล้านบาท มาเป็นค่าบริหาร 2 บาทต่อกก.
รมว.เกษตรฯ กล่าวด้วยว่า ได้สั่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องหารือกับกระทรวงมหาดไทย เชิญประชุมนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) รับทราบคู่มือทำถนนยางพารา พร้อมกับราคากลาง และแบบก่อสร้างจากกรมทางหลวง ซึ่งกำลังเขียนใหม่จะเสร็จภายในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ สำหรับ อปท.ทำถนนลูกรังอัดแน่นผสมปูนซีเมนต์และน้ำยางพารา ที่มีราคาก่อสร้างเพียงกิโลเมตรละ 1.2 ล้านบาท แต่ใช้น้ำยางได้มากถึง 12-15 ตัน ต่อ 1 กิโลเมตร กว่า 7.5 หมื่นหมู่บ้าน ขณะนี้กำลังให้ 2 กระทรวงรวบรวมตัวเลขแต่ละ อปท.เสนอจำนวนการทำถนนทั่วประเทศ ส่งรายงานทุกวันเข้าศูนย์ติดตามโครงการ ว่าถนนกี่เส้น เป้าหมายใช้ยางกี่ตัน วันที่เริ่มลงมือทั้งหมดแล้วเสร็จเมื่อไหร่ จะทำเป็นแผนปฏิบัติการอย่างชัดเจน