ตรวจพื้นที่ปลูกหอมหัวใหญ่ตาคลี แนะใช้หอมเซทให้ผลผลิตเร็ว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/385323

x

ตรวจพื้นที่ปลูกหอมหัวใหญ่ตาคลี แนะใช้หอมเซทให้ผลผลิตเร็ว

วันพฤหัสบดี ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นางอัญชนา ตราโช  รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)  เปิดเผยสถานการณ์หอมหัวใหญ่ในจ.นครสวรรค์ ซึ่งมีการปลูกที่อ.ตาคลี ต.พรมนิมิต และต.ช่องแค หอมหัวใหญ่เป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนระยะสั้น เกษตรกรจะปลูกช่วงฤดูแล้ง หลังเก็บเกี่ยวพืชไร่ มีการเตรียมดินเพื่อเพาะกล้าและเริ่มปลูกลงแปลงเดือนพฤศจิกายน ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 60-90 วัน  ผลผลิตหอมหัวใหญ่จ.นครสวรรค์จะเก็บเกี่ยวชุดแรกต้นเดือนมกราคม 2562 โดยจะออกสู่ตลาดมากที่สุดเดือนมีนาคม และเก็บเกี่ยวหมดเดือนเมษายน 2562

จากการติดตามโดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 จ.นครสวรรค์ (สศท.12) ถึงสถานการณ์ ผลผลิตหอมหัวใหญ่ ปีเพาะปลูก 2561/62 (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2561)  พบว่าจ.นครสวรรค์ มีเนื้อที่เพาะปลูกประมาณ 684 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 11 ผลผลิตรวมประมาณ 2,623 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 11 โดยผลผลิตเฉลี่ย 3,835 กิโลกรัม/ไร่ เนื่องจากที่ผ่านมาสภาพอากาศมีฝนตกชุก ส่งผลให้หัวพันธุ์บางส่วนได้รับความเสียหาย และเกิดโรคหอมเลื้อย เกษตรกรลดพื้นที่ปลูกลง

สำหรับผลผลิตหอมหัวใหญ่ของจังหวัด จะออกสู่ตลาดมากที่สุดเดือนมีนาคม 2562 ประมาณ 1,618 ตัน  ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาราคาผันผวน เกษตรกรควรปรับวิธีการปลูก โดยแบ่งพื้นที่บางส่วนปลูกแบบหอมเซท  (การเก็บหัวแห้งขนาดเล็กเพื่อใช้ปลูกในฤดู) เนื่องจากการปลูกโดยใช้หอมเซทจะเก็บเกี่ยวและให้ผลผลิตเร็วกว่าปลูกแบบเพาะกล้า ซึ่งขณะนี้จ.นครสวรรค์มีสัดส่วนปลูกแบบหอมเซทประมาณร้อยละ 25

ด้านนางพัชรารัตน์ ลิ้มศิริกุล ผู้อำนวยการสศท.12 กล่าวเสริมว่า ช่วงนี้การเจริญเติบโตหอมหัวใหญ่ อยู่ในช่วงลงหัว ซึ่งสภาพอากาศร้อนและมีฝนตก อาจทำให้หัวโตช้า และบางส่วนเสียหายจากโรคหอมเลื้อย (Collectotrichum gloeosporioides (Penz.) Sacc) ซึ่งจะระบาดในแปลงปลูกที่มีความชื้นสูง อาจทำให้การระบาดของโรคหอมเลื้อยมากขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตเสียหายได้ เกษตรกรควรดูแลอย่างใกล้ชิด โดยโรคหอมเลื้อยหอมหัวใหญ่ จะพบโรคบริเวณโคนใบ หรือระดับกอดิน ทำให้ใบ ลำต้น โค้งงอ หักพับ ต้นเอนเลื้อย การป้องกัน กำจัด และลดการแพร่กระจาย ให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงเมื่อพบโรคให้เก็บต้นหรือใบที่เป็นโรคออกทำลาย และฉีดพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช สอบถามข้อมูลดูแลและป้องกันกำจัดได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร ในพื้นที่ หรือขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมและคำแนะนำได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 โทร. 0-5680-3525 หรือ อีเมล zone12@oae.go.th

Leave a comment