ไฟเขียว2โครงการแก้ไข่ราคาตก เร่งลดปริมาณในระบบ เก็บเข้าห้องเย็น-ส่งตปท.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/385589

x

ไฟเขียว2โครงการแก้ไข่ราคาตก เร่งลดปริมาณในระบบ เก็บเข้าห้องเย็น-ส่งตปท.

วันศุกร์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ครั้งที่ 2/2561ว่า ที่ผ่านมาราคาไข่ไก่อ่อนตัวลงเกิดจากปริมาณไข่มากกว่าความต้องการ กระทรวงเกษตรฯโดยกรมปศุสัตว์ จึงดำเนินโครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ปี 2561 มุ่งเน้นแก้ปัญหาด้วยการปรับสมดุล demand และ supply โดยขอความร่วมมือให้บริษัทผู้นำเข้าปู่ย่าพันธุ์และพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ทั้ง 16 ราย ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ PS Support หรือมาตรการส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศ เพื่อลดปริมาณไข่ไก่ในระบบช่วยพยุงราคาไข่ไก่ในประเทศให้สูงขึ้นแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ม.ค. – ต.ค. 2561 และพ.ย. – ธ.ค. 2561 โดยลดจำนวนแม่ไก่ไข่ยืนกรงได้ 1.8 ล้านตัว (จาก 50 กว่าล้านตัว) และลดจำนวนแม่พันธุ์ไก่ไข่ 1.9 แสนตัว รวมทั้งเก็บรวบรวมและส่งออกไข่ไก่ 149 ล้านฟอง จากการดำเนินการทำให้ราคาไข่ไก่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ และ
ปิดเทอม ความต้องการบริโภคไข่ก็มีลดลงไปบ้าง

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) มีมติเห็นชอบกรอบการใช้เงินกองทุนรวมฯ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 วงเงิน 17.613 ล้านบาท ที่กรมการค้าภายในเสนอขอเพื่อดำเนินโครงการเก็บสต๊อกไข่ไก่เข้าห้องเย็น วงเงิน 2.163 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบริหารจัดการการส่งออกเพื่อผลักดันการส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศวงเงิน 15 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คบท.) พิจารณาเห็นชอบก่อนเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติตามระเบียบต่อไป คาดว่าจะเร่งส่งออกได้ทันก่อนปีใหม่นี้

สำหรับแผนลดจำนวนนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ และปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ ปี 2562 ที่ประชุมยังไม่มีมติลดจำนวน เนื่องจากฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ที่อยู่ในระบบแล้ว ยังมีฟาร์มหลังบ้านหรือเกษตรกรที่เลี้ยงไก่ไว้เพื่อบริโภคในครอบครัวและจำหน่ายในชุมชนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เกิดจากรัฐเข้าไปสนับสนุน จึงให้กรมปศุสัตว์ไปสำรวจตัวเลขให้ชัดเจนและรีบดำเนินการแจ้งให้ที่ประชุมทราบภายในวันที่ 15 ม.ค. 2562

Leave a comment