กรมชลฯเข้มแผนรับมือน้ำน้อยฝ่าวิกฤติฝนมาช้า-ทิ้งช่วง #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/475326

news_default

กรมชลฯเข้มแผนรับมือน้ำน้อยฝ่าวิกฤติฝนมาช้า-ทิ้งช่วง

วันพุธ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 06.00 น.

กรมชลประทานเกาะติดสถานการณ์น้ำฤดูแล้ง ย้ำยังเป็นไปตามแผน คุมเข้มการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ควบคุมคุณภาพน้ำไม่ให้กระทบต่อการผลิตน้ำประปา ยันน้ำเพียงพอจนสิ้นฤดูแล้ง พร้อมสำรองน้ำกว่า 2,000 ล้านลบ.ม.รับมือฝนมาล่าช้าและฝนทิ้งช่วง

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2562/63 ว่า ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ล่าสุด ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ยังมีน้ำใช้การ 16,138 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) อ่างฯขนาดกลางมีน้ำใช้การ 1,853 ล้านลบ.ม. และแหล่งน้ำขนาดเล็กมีน้ำใช้การ 140 ล้านลบ.ม. เมื่อรวมกับแหล่งน้ำอื่นทั้งประเทศขณะนี้มีปริมาณน้ำใช้ได้การรวมประมาณ 29,000 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 40ของปริมาณเก็บกัก ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้จัดสรรน้ำให้ใช้ในฤดูแล้ง 4,000 ล้านลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 2,925 ล้านลบ.ม.หรือร้อยละ 65 ต้องจัดสรรให้เพียงพอกับการใช้ในกิจกรรมต่างๆจนถึงสิ้นฤดูแล้ง(30 เมษายน 2563) ซึ่งมีความต้องการใช้วันละ18 ล้านลบ.ม. ประกอบด้วยน้ำอุปโภคบริโภค 7 ล้านลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 8 ล้านลบ.ม. และการเกษตร 3 ล้านลบ.ม.

นอกจากนี้ กรมชลประทานยังวางแผนบริหารจัดการน้ำในการผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้กระทบการผลิตน้ำประปา โดยระบายน้ำทั้งจากหน้าเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่ต่ำกว่า 70 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาลงแม่น้ำเจ้าพระยาในอัตรา 30 ลบ.ม.ต่อวินาที รวมปริมาณ 500 ล้านลบ.ม. และใช้น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ด้วยการระบายผ่านเขื่อนพระรามหกในอัตรา 5-10 ลบ.ม.ต่อวินาที จึงขอให้ประชาชนมั่นใจเรื่องปริมาณน้ำที่เพียงพอและคุณภาพน้ำที่ดีใช่วงฤดูแล้งนี้

ส่วนกรณีคลองชัยนาท-ป่าสักลดต่ำลงกว่าตลิ่งค่อนข้างมากนั้น ขณะนี้กรมชลประทานแก้ปัญหาโดยเตรียมเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง ไว้ที่บริเวณประตูระบายน้ำมโนรมย์แล้ว จะสามารถสูบน้ำเข้าคลองเพิ่มได้จากอัตราการไหลโดยแรงโน้มถ่วงปกติอีกวันละ 1.5 ล้านลบ.ม. ประชาชนสองฝั่งคลองมั่นใจได้ว่ายังคงมีน้ำอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ

“กรมชลประทานคาดการณ์ว่าวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ลุ่มเจ้าพระยาจะมีน้ำต้นทุนใน 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) รวมกันประมาณ 2,200ล้านลบ.ม. โดยน้ำจำนวนนี้จะสำรองไว้ใช้ในห้วงเวลาฝนมาล่าช้าและฝนทิ้งช่วงตามที่มีการคาดการณ์ จึงขอความร่วมมือประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของน้ำ ไม่เปิดน้ำทิ้ง ไม่ทิ้งสิ่งสกปรกลงแม่น้ำลำคลองและขอความร่วมมือเกษตรกรลุ่มเจ้าพระยางดใช้น้ำจากระบบชลประทานเพื่อไปปลูกพืช เนื่องจากการปลูกพืชใช้น้ำมากช่วงนี้เท่ากับดึงน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคไปใช้ ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อผู้ใช้น้ำทุกคน”รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าว

Leave a comment