ชายคาพระพิรุณ : 9 มีนาคม 2563 #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/477915

586851

ชายคาพระพิรุณ : 9 มีนาคม 2563

วันจันทร์ ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

สัปดาห์ที่ผ่านมา นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดห้องให้ตัวแทนสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ซึ่งนำโดย นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ นายกสมาพันธ์เกษตรปลอดภัยเข้าพบ เพื่อหารือต่อกรณีแบน 3 สาร โดยทางตัวแทนเกษตรกร มองว่ามาตรการยกเลิกสารพาราควอต แต่ให้จำกัดการใช้สารไกลโฟเซต จะสร้างความเสียหายต่อระดับผลผลิต และระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างมหาศาล จึงได้ยื่นข้อเรียกร้อง 6 ข้อประกอบด้วย 1.ให้พิจารณาเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกษตรกร ภาครัฐ และภาคเอกชนในการพัฒนาและยกระดับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี หรือ “จีเอพี” เพื่อให้เกิดการเพาะปลูกและได้ผลผลิตที่ได้มาตรฐานปลอดภัย เสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก 2.เนื่องจากสารเคมีด้านการเกษตร ถือเป็นปัจจัยการผลิตที่จำเป็นต่อการเพาะปลูกของเกษตรกร จึงขอเสนอให้พิจารณาส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมเกษตรอย่างทั่วถึง ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ ให้สามารถใช้สารเคมีเกษตรชนิดต่างๆ ตามมาตรฐานจีเอพีอย่างถูกวิธี ซึ่งการดำเนินการตามแนวทางจีเอพีอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการสร้างความปลอดภัยด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคในการทำงานหาเลี้ยงชีพของเกษตรกร ขอให้ส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ๆ แม้แต่การวิจัยสารเคมีตัวใหม่ๆ อย่าไปปิดกั้น หรือห้ามไม่ให้มีสารใหม่ๆ เข้ามาขายในประเทศ เพราะมันคือเทคโนโลยี และหากมีการระบาดของโรค แมลงชนิดใหม่ๆ เกษตรกรจะได้มีตัวเลือก ท้ายที่สุดเกษตรกรผู้ใช้จะเป็นผู้เลือกเองตามประสิทธิภาพ ราคา 3.สมาพันธ์เกษตรปลอดภัยเล็งเห็นถึงความสำคัญของแนวนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงเครื่องจักรกลทางการเกษตร อย่างไรก็ตามสมาพันธ์เกษตรปลอดภัยขอเสนอให้พิจารณาผลักดันนโยบายดังกล่าวตามความเหมาะสมของวิธีการเพาะปลูกและสภาพพื้นที่เกษตรกรรมในแต่ละภูมิภาค รวมทั้งความพร้อมของเกษตรกรผู้ปลูกพืชในแต่ละชนิด ในกรณีที่ยังไม่สามารถใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรหรือนวัตกรรมอื่นๆ มาทดแทนได้ ควรส่งเสริมให้เกษตรมีศักยภาพในการใช้สารเคมีด้านการเกษตรตามมาตรฐานจีเอพี ควรเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยมีทางเลือกในการเข้าถึงปัจจัยทางการผลิตในระดับต้นทุนที่ยอมรับได้

4.ประเด็นเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากสารเคมีทางการเกษตรยังมีข้อถกเถียง และข้อโต้แย้งทางวิชาการในหลากหลายมิติที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ทางสมาพันธ์เกษตรปลอดภัยจึงขอเสนอให้พิจารณาสรรหาแนวทางที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเกษตรกรในชนบทและผู้บริโภคในเมือง ทำให้เกษตรกรดำรงชีวิตอยู่ได้ ทั้งนี้ การเร่งรัดให้มีการยกเลิกสารเคมีทางการเกษตรโดยไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจน จะก่อให้เกิดภาระต่อเกษตรกรไทยอย่างมหาศาล จนกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ 5.เนื่องจากมาตรการจำกัดการใช้สารไกลโฟเซต พาราควอต และคลอร์ไพริฟอสมีผลบังคับใช้มานับตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2562 จวบจนปัจจุบัน แต่เกษตรกรจำนวนมากยังไม่มีโอกาสได้รับการฝึกอบรมและผ่านการทดสอบการใช้สารเคมีทั้งสามชนิดอย่างถูกวิธี จึงไม่สามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตเพื่อเตรียมความพร้อมในฤดูกาลเพาะปลูกอันใกล้นี้ จึงขอเสนอให้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเปิดการฝึกอบรมทั่วประเทศเป็นการเร่งด่วนมิฉะนั้น อาจเกิดสภาวะความโกลาหลในภาคการเกษตร ซ้ำเติมเกษตรกรผู้กำลังประสบภัยแล้ง และอาจเกิดภาวะตลาดมืดของสารเคมีซึ่งทำลายระบบมาตรฐานจีเอพีของประเทศไทย 6.สารพาราควอตเป็นปัจจัยการผลิตที่จำเป็นในการจัดการวัชพืช ซึ่งไม่มีสารทดแทนหรือวิธีการทดแทนที่มีประสิทธิภาพ ในระดับต้นทุนที่เกษตรกรยอมรับได้ นอกจากนี้ สารไกลโฟเซตก็ไม่สามารถทดแทนสารพาราควอตได้ เนื่องด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงดังนั้น มาตรการยกเลิกสารพาราควอต แต่ให้จำกัดการใช้สารไกลโฟเซต จะสร้างความเสียหายต่อระดับผลผลิต และระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างมหาศาล จึงขอให้ พิจารณาคงไว้ซึ่งมาตรการจำกัดการใช้สารพาราควอต และมีการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้สารเคมีดังกล่าวอย่างถูกต้องตามมาตรฐานจีเอพีที่ประเทศคู่ค้าหลักของไทยยอมรับ

ในที่ประชุม รมช.มนัญญา ได้ยืนยันกับตัวแทนเกษตรกรว่า จะยึดมติ 23.พ.ค.61 เพื่อเดินหน้าจำกัดการใช้ 3 สารต่อไป ซึ่งดูแล้วเรื่องนี้ ยังยาวและต้องติดตามกันต่อไป เพราะแม้ว่าคณะกรรมการวัตถุอันตราย ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 ที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ได้กลับมติคณะกรรมการวันที่ 22 ต.ค. 2562 ที่ให้แบน 3 สาร และในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 มติใหม่ ให้แบนเฉพาะพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส โดยให้มีผลบังคับวันที่ 1 มิ.ย. 2563 ส่วนไกลโฟเซต ยกเลิกแบน แต่ให้จำกัดการใช้แทนก็ตาม แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ขุนเกษตรา

Leave a comment