#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/476879

ผวาโควิด-19ทุบตลาดผลไม้ส่งออก มนัญญาสั่งใช้สหกรณ์ขยายช่องทางจำหน่ายสู่ผู้บริโภค
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19ระบาดหนักในจีนและหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปจีน โดยเฉพาะผลไม้ ทั้งทุเรียน มังคุดและลำไย ซึ่งแต่ละปีจีนสั่งซื้อผลไม้เหล่านี้จากไทยจำนวนมาก ซึ่งจากข้อมูลการส่งออกผลไม้ย้อนหลัง 3 ปี (2560-2562) 3 ประเทศหลักที่สั่งซื้อผลไม้ของไทย ได้แต่ จีน ฮ่องกงและเวียดนาม รวม 1,324,637 ตัน ในจำนวนนี้ส่งออกไปจีน 570,833 ตัน
ปี 2563 คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีปริมาณผลไม้ออกสู่ตลาด รวม 3,072,591 ตัน แบ่งเป็น ทุเรียน ลำไย มังคุด เงาะ ลองกองและลิ้นจี่ และเมื่อนำผลผลิต 3 ชนิดสำคัญ คือ ทุเรียน ลำไย มังคุด รวมกันจะมีปริมาณมากกว่า 84% ของปริมาณผลไม้ทั้งประเทศ ถ้าไม่มีมาตรการรองรับ ผลผลิตที่ไม่สามารถส่งออกได้จะกระจุกตัวกลับมาสู่ตลาดในประเทศ ทำให้ผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำและเกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนขณะเดียวกัน มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลไม้ 104 แห่งใน 31 จังหวัด มีเกษตรกรเป็นสมาชิก 95,321 ราย ปริมาณรวบรวมผลไม้ปี 2562 ที่ผ่านมา 32,242.53 ตัน มูลค่า 966.173 ล้านบาท และมีการส่งออกผลผลิตทุเรียน มังคุด และลำไย ไปจีน 12,251.16 ตัน มูลค่า 572.45 ล้านบาท
“มอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกร เพื่อรองรับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิค-19 เป็นมาตรการเร่งด่วน เพื่อให้การระบายผลผลิตออกจากพื้นที่เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ป้องกันปัญหาผลไม้กระจุกตัวและล้นตลาด โดยจะใช้เครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศเป็นกลไกระบายผลไม้สู่ตลาดทุกพื้นที่และเข้าถึงผู้บริโภค ในราคาเป็นธรรม โดยสหกรณ์ที่เป็นแหล่งผลิตผลไม้รวบรวมและกระจายผลผลิตส่งขายให้สหกรณ์ที่มีศูนย์กระจายสินค้าและสหกรณ์ขนาดใหญ่ทุกอำเภอทั่วประเทศ ช่วงระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน เบื้องต้นตั้งเป้าหมายกระจายผลไม้ผ่านระบบสหกรณ์ 80,000 ตัน แบ่งเป็นทุเรียน 40,00 ตัน มังคุด 20,000 ตัน และลำไย 20,000 ตัน” รมช.มนัญญา กล่าว
นอกจากนี้ จะขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อบริหารจัดการผลไม้ผ่านระบบสหกรณ์ วงเงิน 414.20 ล้านบาท โดยให้สหกรณ์ต้นทางและสหกรณ์ปลายทางใช้เป็นค่าบริหารจัดการผลไม้เพื่อกระจายผลไม้สู่ผู้บริโภคในพื้นที่ และจะจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ในจังหวัดใหญ่ รวม 16 จังหวัดและระดับอำเภอ 824 อำเภอ และให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 1 ให้สหกรณ์กู้ยืมไปเป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมผลไม้จากเกษตรกรในฤดูกาล ปี 2563
ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิค-19 โดยการสนับสนุนการกระจายผลไม้ผ่านสถาบันเกษตรกรในช่วงฤดูกาลผลิต ปี 2563 จะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาผลไม้ไม่ให้ตกต่ำ คิดเป็นมูลค่า 1,760 ล้านบาท และมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่า 7,644.071 ล้านบาท หรือ 18.45 เท่าของการลงทุนจากภาครัฐ