#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/499832
.jpg)
สสส.ร่วมกับภาคี แนะ ‘ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย’ เน้นกิจกรรมทางกายและโภชนาการที่ดี
วันพฤหัสบดี ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
ผศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา, ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์, วราวิช กำภู ณ อยุธยา, นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์
สสส. จับมือภาคี ระดมสมองเปิดมุมมอง“ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย” ชูกิจกรรมทางกาย 3 รูปแบบ เล่นสนุกผ่อนคลาย-เล่นเสริมทักษะตามวัย-เล่นสร้างความแข็งแรง เสริมโภชนาการสมวัย ช่วยพัฒนาการสมบูรณ์รอบด้าน ร่างกาย-จิตใจ-อารมณ์-สังคม-การเรียนรู้ หลังสำรวจพบเด็กมีกิจกรรมทางกายลดลงกว่า 60%
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานแถลงข่าว “New Normal for Thai Children ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย” ภายใต้โครงการกิจกรรมส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายกลุ่มวัยเด็กในสถานศึกษา (Active Play Active School) พร้อมเสวนาหัวข้อ “ทิศทางการสร้างเสริมสุขภาวะบนชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย”
นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าสถานการณ์ปัญหาโรคระบาดโควิด-19ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกมิติ โดยเฉพาะมิติด้านสุขภาพที่ต้องปรับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่แตกต่างจากแนวปฏิบัติที่คุ้นเคย กระทบต่อระบบการศึกษาที่ต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียน“กลุ่มเด็ก” จึงใช้เวลาหน้าจอมากขึ้นทั้งการเรียนและเล่นเกมออนไลน์ ส่งผลให้มีกิจกรรมทางกายเพียงพอในอัตราที่ลดลง เป็นที่ทราบกันดีว่าการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อสู้กับ โควิด-19 ทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันพร้อมรับมือกับการคุกคามของโรคอุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น ในอนาคต กระทรวงศึกษาธิการเอง ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของเด็กนักเรียน และเป็นการสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ปกครองจึงออกมาตรการเพื่อให้โรงเรียนนำไปใช้ปฏิบัติ เพื่อลดความเสี่ยงเพิ่มปัจจัยเสริมให้เด็กมีสุขภาวะที่ดี เพื่อรองรับการปรับตัวของเด็กๆ ในการเปิดภาคเรียนที่จะถึงนี้ ซึ่งสอดรับกับบทบาทของ สสส. ในการกระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในชีวิตวิถีใหม่
.jpg)
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ผลการสำรวจข้อมูลการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางสุขภาพของประชากรในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย สสส. และสถาบันวิจัยประชากร และสังคม มหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า สถานการณ์ดังกล่าวนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย ใน 2 มิติคือ มิติเชิงบวก พบว่า มีเด็ก ร้อยละ 11.6 ที่มีโอกาสในการเล่น ออกแรงเคลื่อนไหว และมีกิจกรรมทางกายมากขึ้นกว่าในช่วงปกติซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการที่ผู้ปกครองได้ทำงานจาก ที่บ้าน ทำให้มีเวลาที่จะร่วมเล่นและทำกิจกรรมกับบุตรหลาน มิติเชิงลบพบว่ามีเด็ก ร้อยละ 61.6 มีกิจกรรมทางกายที่ลดลงขณะที่มีช่วงเวลาของการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หน้าจอเพื่อความบันเทิง เพิ่มสูงขึ้น เป็น4 ชั่วโมงกว่าต่อวัน จากสถานการณ์ในมิตินี้ มีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะจากเดิมเฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าข้อแนะนำมาตรฐานกว่า 1 ชั่วโมงอยู่แล้วสสส. จึงมุ่งหวังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันส่งเสริมให้ชีวิตวิถีใหม่ของเด็ก และเยาวชนไทยมีสุขภาวะที่ดี ผ่านการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอสูงขึ้นอีกร้อยละ 10
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กล่าวว่า การกระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางกายอย่างเหมาะสมพร้อมกับการส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกายอย่างมีสุขภาวะในมิติของการมีกิจกรรมทางกายในชีวิตวิถีใหม่ นอกจากจะเป็นการสร้างเสริมสุขภาพ ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถป้องกันหรือต่อสู้กับโรคภัยแล้ว ยังเป็นแนวทางการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคได้เป็นอย่างดี และจะเป็นการลดโอกาสการกลับมาระบาดซ้ำของไวรัสโควิด-19
รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก ประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 5 สสส. กล่าวว่า การมีสุขภาวะที่ดีในช่วงวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญที่สุดที่จะนำพาอนาคตที่สดใสมาให้พวกเขาได้ การเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม ผ่านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย และการรับประทานอาหารที่เหมาะสม ให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ของเด็ก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องร่วมมือกันจากสถานการณ์ปัจจุบัน “กลุ่มเด็ก”มีกิจกรรมทางกายลดลง และมีการเลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง แต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ เป็นสาเหตุให้เกิดความเสี่ยงเช่น น้ำหนักตัวเกิน โรคอ้วน ส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ พัฒนาการล่าช้า ส่งผลต่อการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจกับพ่อแม่ ผู้ปกครองครู หรือผู้ดูแลเด็ก เพื่อช่วยกันส่งเสริมให้เด็กไทยมีสุขภาวะที่ดี ด้วยการจัดอาหารให้เด็กได้รับประทานอย่างมีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ กินผัก ผลไม้ให้เพียงพอลดอาหารหวาน มัน เค็ม และให้ดื่มนมจืดอย่างน้อย 2 กล่องต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตตามช่วงวัย และการส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ อย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน ผ่านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย 3 รูปแบบคือ1.การเล่นเพื่อความสนุกสนานและผ่อนคลาย 2.การเล่นเพื่อเสริมสร้างทักษะต่างๆ ตามช่วงวัย และ 3.กิจกรรมทางกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ดำเนินรายการโดย นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะสสส.
ทั้งนี้ ช่วงบ่ายมีการเสวนา “เจาะลึกกิจกรรมทางกายของเด็กไทยบนชีวิตวิถีใหม่” โดย ผศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา หัวหน้าศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง แนวทางการส่งเสริมกิจกรรมทางกายของเด็กไทย เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ สร้างความสุขและความสนุกสนานให้กับเด็กๆ บนชีวิตวิถีใหม่
ผ่าน “คู่มือ การเรียนรู้ 3 มิติ เล่น-เรียน-รู้”ที่จะช่วยให้ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็ก จัดกิจกรรมให้เด็กในช่วงอยู่ที่บ้านโดยมี “ตารางการเรียนรู้ 3 มิติ” เป็นเครื่องมือเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ในช่วงเวลาทองของแต่ละวัน โดยประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะไม่ได้จำกัดอยู่ในแง่ของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้เท่านั้น แต่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และการรู้คิดของเด็กอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยอีกด้วย