#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/501282
x
192องค์กรพิทักษ์สัตว์ทั่วโลกร้องนายกฯ เร่งยุติผสมพันธุ์ช้างชั่วคราวลดปัญหาระยะยาว
วันพฤหัสบดี ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) พร้อมองค์กรด้านสัตว์และการอนุรักษ์รวม 192 องค์กรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ร่วมส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอให้ออกมาตรการเร่งด่วนยุติการผสมพันธุ์ช้างชั่วคราวในประเทศไทย เพื่อบรรเทาปัญหาสวัสดิภาพช้างและความไม่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยมีปัจจัยสำคัญคือผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ที่อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิมหากไม่รีบแก้ไข
ในจดหมายเปิดผนึกเผยถึงจำนวนช้างไทยที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นมากตลอดช่วงสิบปีที่ผ่านมา จาก 1,644 เชือก ในปี 2553 เป็น 2,779 เชือกในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 70% โดยประเมินว่าค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารช้างในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมากกว่า 28 ล้านบาทต่อเดือน และอีกประมาณ 28 ล้านบาท สำหรับเงินเดือนควาญช้างและผู้ดูแล ซึ่งภาระเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงต่อการดูแลสวัสดิภาพช้างที่อาจไม่ครอบคลุมทั่วถึงและเพียงพอ โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ธุรกิจท่องเที่ยวมักได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกเสมอ
นางสาวโรจนา สังข์ทองผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ปางช้างต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้ช้างจำนวนมากถูกส่งกลับบ้านไปให้เจ้าของดูแล ซึ่งปกติเวลาช้างถูกส่งกลับบ้าน เจ้าของมักถือโอกาสนี้ผสมพันธุ์ช้างเพื่อหวังรายได้จากการขายลูกช้างในอนาคต เราจึงกังวลว่าเจ้าของช้างจะยังผสมพันธุ์ช้างต่อไปท่ามกลางภาวะวิกฤติโควิด-19 อาจทำให้เกิด “เบบี้บูม”ของช้างตามมาในอนาคตได้ สวนทางกับสถานการณ์ปัจจุบันที่แนวโน้มการท่องเที่ยวและทรัพยากรสำหรับการดูแลช้างกำลังถดถอยลง 192 องค์กรที่ร่วมลงนามพร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าอีก 10 คนยืนยันว่าสถานที่ท่องเที่ยวไม่ใช่พื้นที่เหมาะสมสำหรับช้าง สัตว์ป่าที่เฉลียวฉลาด มีขนาดและพละกำลังสูง การผสมพันธุ์ช้างเพื่อป้อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่มีประโยชน์ด้านการอนุรักษ์แต่อย่างใด และการที่ช้างในประเทศไทยต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเปราะบางถือเป็นแนวทางจัดการที่ไม่ยั่งยืน ดังนั้น การยุติการผสมพันธุ์ช้างชั่วคราวนอกจากช่วยป้องกันปัญหาสวัสดิภาพช้างในอนาคตแล้ว ยังช่วยจัดสรรความช่วยเหลือให้ช้างไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันได้เพียงพอและทั่วถึงมากขึ้น
นอกจากนี้ เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกเผยถึงผลกระทบวิกฤติที่เกิดกับควาญช้าง โดยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่า มากกว่าหนึ่งในสามของควาญช้างในประเทศไทยต้องพึ่งพาค่าแรง ขั้นต่ำ ไม่มีเงินออมและการดูแลช้าง สัตว์ที่ยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่า เฉลียวฉลาดและพละกำลังสูง ทำให้ควาญเหล่านี้ตกอยู่ในความเสี่ยงบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในบางกรณี
“ตั้งแต่เกิดโควิด-19 องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนเงินฉุกเฉินเบื้องต้น เพื่อช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ของช้างและควาญช้างจำนวนหนึ่งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เราลงมือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในภาวะวิกฤตไปพร้อมกับผลักดันเชิงนโยบาย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนระยะยาว เราเชื่อเสมอและขอย้ำว่าสัตว์ป่าไม่ใช่นักแสดง พวกเขาสมควรได้อยู่ในป่า” นางสาวโรจนากล่าว