#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/502968
x
กษ.ลุยสกัดพื้นที่โรคใบด่างมันฯระบาด แนะชาวไร่ใช้ท่อนพันธุ์สะอาดจาก30จว.
วันศุกร์ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
กรมวิชาการเกษตร เร่งกระชับพื้นที่ระบาดโรคใบด่างมันสำปะหลัง หลังพบพื้นที่ระบาดเพิ่มกว่าแสนไร่ใน 22 จังหวัด ชี้เป้าปลูกพันธุ์อ่อนแอและใช้ท่อนพันธุ์ติดโรค วอนเกษตรกรใช้ท่อนพันธุ์มันสะอาดจาก 30 จังหวัดปลอดโรคใบด่าง พร้อมปลูกมันพันธุ์ทนทานโรค ระยอง 72 และ KU 50
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยถึงสถานการณ์ระบาดโรคใบด่างมันสำปะหลัง ล่าสุดพบระบาดในพื้นที่ปลูกมันของไทยรวม 22 จังหวัดคือ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยภูมิ นครราชสีมา นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี มหาสารคาม ระยอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สระแก้ว สระบุรี สุพรรณบุรี สุรินทร์ อุทัยธานี อุบลราชธานี มุกดาหาร และลำปาง รวมพื้นที่ระบาดทั้งหมด 111,549 ไร่ สาเหตุสำคัญที่ทำให้โรคใบด่างมันสำปะหลังระบาดเพิ่มขึ้นเพราะใช้ท่อนพันธุ์จากแหล่งที่มีการระบาด นอกจากนี้ ยังพบเกษตรกรบางพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรค ซึ่งกรมฯเคยเตือนแล้วว่าแม้จะเป็นพันธุ์ที่โตได้ดี ให้น้ำหนักดี แต่เป็นพันธุ์อ่อนแอต่อทุกโรคของมันสำปะหลัง เช่น โรคหัวเน่า พุ่มแจ้และใบด่าง ขอให้เกษตรกรปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 72 หรือ KU 50 ซึ่งค่อนข้างทนทานต่อโรคใบด่างและต้องเป็นพันธุ์ที่มาจากแปลงที่ผลิตต้นพันธุ์สะอาดและปลอดโรค รวมทั้งไม่ใช้ท่อนพันธุ์ที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะมีโรคใบด่างติดเข้ามากับท่อนพันธุ์ด้วย ทำให้เกิดระบาดในฤดูปลูกต่อมาได้
ดังนั้น ขอย้ำเตือนเกษตรกรให้เลือกใช้ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังจากแหล่งที่ยังไม่พบการระบาดของโรคใบด่าง 30 จังหวัดคือ กำแพงเพชร จันทบุรี ชัยนาท เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครนายก นครพนม นราธิวาส น่าน ประจวบคีรีขันธ์ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ ยโสธร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลำพูน เลย สกลนคร สิงห์บุรี สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานีและอุตรดิตถ์ รวมทั้งขอความร่วมมือให้เกษตรกรหยุดปลูกพันธุ์มันสำปะหลังพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรค จึงจะหยุดวงจรระบาดของโรคนี้ได้ยั่งยืน เนื่องจากโรคใบด่างจากเชื้อไวรัส Sri Lankan cassava mosaicvirus (SLCMV) ทำให้ผลผลิตเสียหายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เกษตรกรเก็บผลผลิตไม่ได้ ที่สำคัญโรคนี้เข้าทำลายมันสำปะหลังได้ทุกระยะการเจริญเติบโต จึงขอความร่วมมือเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องร่วมเฝ้าระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ป้องกันไม่ให้พื้นที่ระบาดขยายเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้นอีกต่อไป