#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/510662

ชายคาพระพิรุณ : 10 สิงหาคม 2563
วันจันทร์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาอีกแล้ว สำหรับพี่น้องเกษตรกร ที่หลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ผลกระทบจากภัยแล้งแล้ว นี่ยังต้องมาโดนพายุ ซินลากู ถล่มอีกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพี่น้องชาวสวนทุเรียนภาคใต้ ที่ต้องพากันกุมขมับ ผลผลิตจะเก็บขายได้อยู่มะรำมะร่อ แต่กลับเสียหายหนักทั่งร่วงหล่น บางต้นโค่นล่ม เกษตรกรได้แต่นั่งมองตาปริบๆ รวมๆ หลายจังหวัดน่าจะเสียหายนับร้อยล้านบาทเลยทีเดียว นี่ยังไม่รวมถึงภาคการผลิตอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่ง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้มีความห่วงใยประชาชน และเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนทันที
ซึ่งจากการสำรวจของกรมชลประทาน ระบุว่า อิทธิพลของพายุซินลากูทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 1-4 สิงหาคม 2563 รวม 25 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง น่าน พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู สุรินทร์ อุดรธานี อำนาจเจริญ นครราชสีมา ขอนแก่น เลย นครพนม มหาสารคาม ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา พัทลุง ระนอง และสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน กาฬสินธุ์ สุรินทร์ อุดรธานี อำนาจเจริญ นครราชสีมา ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม หนองบัวลำภู พังงา สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พัทลุง และจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนที่ยังไม่กระทบเหลือเพียง 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และจังหวัดเลย โดยได้รับผลกระทบด้านการเกษตร แบ่งเป็น ด้านพืช 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ น่าน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน เลย ชุมพร สุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช เกษตรกร 6,366 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 38,233.50 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 18,904.50 ไร่ พืชไร่ 9,986 ไร่ พืชสวน 9,343 ไร่ ด้านประมง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพะเยา เลย นครพนม และจังหวัดหนองบัวลำภู เกษตรกร 1,396 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ บ่อปลา 1,137.25 ไร่ และด้านปศุสัตว์ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย น่าน ลำปาง เกษตรกร 480 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 6,801 ตัว ได้แก่ โค-กระบือ 230 ตัว สุกร 76 ตัว สัตว์ปีก 6,495 ตัว
ในขณะที่ กรมส่งเสริมการเกษตร ก็เร่งสั่งการให้เกษตรจังหวัดทุกจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบ ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลความเสียหายด้านพืชหลังพายุผ่านทันที และให้ทุกจังหวัดรายงานสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรกระจายลงพื้นที่ตามอำเภอต่างๆ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมทั้งสำรวจปัญหา สอบถามความต้องการเพื่อฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลดเช่น ส่งเสริมปลูกพืชผักระยะสั้น หรืออาชีพอื่น การให้คำแนะนำด้านวิชาการเพื่อดูแลพืชภายหลังน้ำลด พร้อมให้เกษตรกรเฝ้าระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรให้คำแนะนำแก่เกษตรกรดูแลข้าว พืชไร่ ไม้ผล เพราะช่วงนี้บางพื้นที่พืชเก็บเกี่ยว จึงต้องเตรียมช่วยเหลือเกษตรกรนอกจากนี้ ยังเตรียมให้ผลิตชีวภัณฑ์ เช่น ไตรโคเดอร์ มาเพื่อเตรียมแจกช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลดทันที หลังน้ำลดสารชีวภัณฑ์จะช่วยลดผลกระทบจากโรคพืชที่มากับน้ำได้ สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยจะจ่ายให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย จ่ายเงินช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่จริงที่เสียหายรายละไม่เกิน 30 ไร่ ซึ่งกำหนดให้นาข้าวได้รับอัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ได้รับอัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่นได้รับอัตราไร่ละ 1,690 บาท ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562…ก็ต้องสู้ๆ กันต่อไปครับ
ขุนเกษตรา