รายงานพิเศษ : สศก.เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหามหามงคล เดินหน้าโครงการแรงงานคืนถิ่นฯ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/510882

รายงานพิเศษ : สศก.เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหามหามงคล  เดินหน้าโครงการแรงงานคืนถิ่นฯ

รายงานพิเศษ : สศก.เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหามหามงคล เดินหน้าโครงการแรงงานคืนถิ่นฯ

วันอังคาร ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

กระทรวงเกษตรฯ โดย สศก. เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และในหลวงรัชกาลที่ 10 สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานเกษตรทฤษฎีใหม่ภายใต้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นำโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ขับเคลื่อนและขยายผลโครงการแรงงานคืนถิ่น บูรณาการร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ สร้างต้นแบบการพัฒนาคุณชีวิตด้วยศาสตร์พระราชา เสริมภูมิคุ้มกันชีวิตสู้วิกฤติยุค New Normal

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการโครงการแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดิน ด้วยแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ณ ศพก.อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ว่า ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมาย สศก. ดำเนินการจัดทำโครงการแรงงานคืนถิ่นฯ ภายใต้โครงการ พัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจการเกษตรอาสาประจำศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยอบรมและสาธิตการทำการเกษตรด้วยแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อช่วยเหลือแรงงานคืนถิ่น ผู้ว่างงาน และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่ง สศก. ได้เริ่มเปิดตัวโครงการฯ ณ จังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงเดือนกรกฎาคม เดือนมหามงคลของปวงชนชาวไทย ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ขยายผลโครงการ และยึดแนวทาง จ.ศรีสะเกษ เป็นต้นแบบโมเดลขับเคลื่อนโครงการฯ ทั่วประเทศตลอดมา

ระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์

สำหรับเดือนสิงหาคมนี้ เป็นอีกหนึ่งวาระโอกาสสำคัญยิ่งของปวงชนชาวไทย ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กระทรวงเกษตรฯ โดย สศก. ได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติและขยายผลโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สศก. ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ณ ศพก. อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งมี นายชาญชัย คำวงษา เศรษฐกิจการเกษตรอาสา และประธาน ศพก. อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสมระดับจังหวัด ประจำปี 2559 และ 2561 ที่ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนโครงการในพื้นที่ครั้งนี้ร่วมกัน

พร้อมนี้ สศก. ยังได้บูรณาการร่วมกับโครงการต่างๆโดยเฉพาะโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอ และครม. อนุมัติวงเงิน 9.8 พันล้านบาท เป็นโครงการแรก ภายใต้กรอบวงเงิน 4 แสนล้านบาท เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยโครงการ 1 ตำบล1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ มีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ถึง 4,009 ตำบล ตำบลละ 16 ราย ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12 และ ศกอ. กับ ศพก. ในพื้นที่ มีศักยภาพและความพร้อมเต็มที่เพื่อร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมทั้งยังบูรณาการร่วมกับศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน สถาบันการศึกษาภายใต้ศูนย์ AIC องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกลุ่มองค์กรภาคประชาชน และศูนย์ปฏิบัติการอื่นๆ ในการช่วยเหลือแรงงานคืนถิ่นร่วมกัน ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดอุดรธานีมีจำนวนเป้าหมาย 149 ตำบล

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดผลกระทบต่อเนื่องทั้งทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน การฟื้นฟูประเทศทางด้านเศรษฐกิจและสังคม จำเป็นที่จะต้องดำเนินการครอบคลุมทุกมิติ และผ่านความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย แน่นอนว่าภาคการเกษตร เป็นภาคการผลิตที่สำคัญ เป็นแหล่งผลิตอาหารในประเทศและส่งออกในฐานะครัวของโลก ดังนั้น สภาวะวิกฤติเช่นนี้ ภาคเกษตร มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการช่วยแก้ไขปัญหา สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในท้องถิ่นตามแนวทางศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ อันเป็นศาสตร์ที่เป็นทางรอดของอาชีพเกษตรและเป็นความภาคภูมิใจของเกษตรกรไทยตลอดมา” เลขาธิการ สศก.

ทั้งนี้ เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12 ซึ่งความสำเร็จของโครงการแรงงาน คืนถิ่นฯ ตลอดจนโครงการต่างๆ ของกระทรวงเกษตรฯ ที่ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในครั้งนี้ นอกจากคนรุ่นใหม่คืนถิ่นจะหันทำการเกษตรโดยเข้าใจถึงองค์ความรู้การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามศาสตร์พระราชาเป็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว ยังก่อเกิดฐานทรัพยากรน้ำ ดิน และป่าไม้ ได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เกิดการกระจายรายได้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เกษตรกรมีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตดียิ่งขึ้น เศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟู และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอีกด้วย

Leave a comment