สวนส้มแพร่พ้อปัญหาอื้อวอนสภาเกษตรฯเป็นพี่เลี้ยง #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/511549

สวนส้มแพร่พ้อปัญหาอื้อวอนสภาเกษตรฯเป็นพี่เลี้ยง

วันศุกร์ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

นายภูผา บัวบุญ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ส้มเขียวหวานเป็นผลไม้ขึ้นชื่อประจำอำเภอลอง และอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ มีชื่อเสียงด้านรสชาติดีไม่เหมือนถิ่นอื่นคือ หวานกลมกล่อมและหวานอมเปรี้ยวในบางฤดู ผลใหญ่ กลมแป้น ผิวเนียน สีผิวเขียวอมเหลือง เส้นใยไม่ติดเนื้อ หรือส้มเปลือกล่อนเนื้อ สีเหลืองส้มฉ่ำน้ำ น้ำในผลสม่ำเสมอ เนื้ออวบมีพื้นที่ปลูกรวม 17,422 ไร่ ให้ผลผลิตแล้ว 14,294 ไร่ เกษตรกร 2,460 ครัวเรือน ผลผลิตออกสู่ตลาดปีละ 3 รุ่น รุ่นที่ 1 ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม จะมีปริมาณมากที่สุด ส้มมีรสหวาน รุ่นที่ 2 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ปริมาณระดับปานกลาง ส้มมีรสหวานนำเปรี้ยว และรุ่นที่ 3 ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมมีปริมาณน้อย และส้มมีรสเปรี้ยวนำ ซึ่งแต่ละปีผลผลิตจะออกมาพร้อมกัน เกษตรกรขาดการวางแผนการผลิต ตัดราคากันเองทำให้พ่อค้าคนกลางกดราคา ปัจจุบันส้มเขียวหวานเบอร์ใหญ่สุดคือ 000, 00 และ 0 ซื้อราคาเดียวกันที่ไม่เกินกิโลกรัมละ 20 บาท เบอร์ 1 ขายได้ราคา 10 บาท เบอร์ 2-3 ราคา 3 บาท และเบอร์ 4 ราคา 1 บาท ถึงแม้เกษตรกรชูส้มปลอดสารพิษเป็นจุดขาย แต่ราคายังไม่ขยับขึ้น ส้มขนาดใหญ่ที่เคยมีราคากิโลกรัมละ 20 บาท ปัจจุบันลดต่ำลงเหลือไม่ถึงครึ่งซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง ยิ่งปีนี้รุนแรงกว่าเดิมด้วยสถานการณ์ภัยแล้งโดยเฉพาะการระบาดไวรัสโควิด-19 สวนส้มที่ไม่มีระบบน้ำดีพอ หรือขาดแหล่งน้ำต้นทุนไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงใบเหี่ยวแห้งเสียหายประมาณร้อยละ 20 ของพื้นที่ปลูกส้ม มีผลต่อคุณภาพผลผลิต เช่น ขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไปไม่สามารถนำเข้าตลาดได้ แม้ยังคงรสชาติดีก็ตาม รวมทั้งราคาตกต่ำจากเฉลี่ยกิโลกรัมละ 30 บาท เหลือเพียง 10 บาท อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือ จัดการน้ำ ซึ่งตำบลนาพูนมีพื้นที่เกษตรจำนวนมาก แต่เป็นพื้นที่มีโฉนดเพียง 4,000 ไร่เท่านั้น ดังนั้น การช่วยเหลือด้านน้ำต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ก่อน เช่น พื้นที่ป่า ต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมป่าไม้

อย่างไรก็ตาม สภาเกษตรกรจังหวัดแพร่ลงพื้นที่เปิดเวทีฟังปัญหาเกษตรกรเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลนาพูน เป็นเวทีแสดงความเห็นนำเสนอปัญหาของเกษตรกร เช่น ปัญหาราคาตกต่ำ ขาดการรวมกลุ่ม ไม่มีการวางแผนการผลิต ภัยแล้งและโรคแคงเกอร์ ดินอุดมสมบูรณ์ต่ำ ปุ๋ยและสารเคมี พื้นที่ปลูกไม่มีเอกสารสิทธิ ผลผลิตเก็บได้ไม่นาน ให้หน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหาช่วยป้องกันแก้ไขตรงจุด โดยสภาเกษตรกรจังหวัดแพร่ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรต่อไป

ขณะที่นายสมบูรณ์ ล่ายวน อายุ 64 ปี เกษตรกรเจ้าของ “สวนแม่แขมหลง” เปิดเผยว่า ปัญหาส้มที่เกิดขึ้นหนักสุดคือภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง บวกกับปัญหาไวรัสโควิด-19ระบาดปีนี้ ราคาร่วงมากจะเก็บผลผลิตเอาไว้ก็ยื้อไม่ไหวงอมจัดลม/ฝนมาก็ร่วงหมดไม่ได้ขาย พยายามหาตลาดโดนกดราคา ส้ม 20 ลัง ขายได้แค่ 2 พันกว่าบาท ไม่คุ้มกับค่าแรง/ค่าน้ำมัน ตลาดท้องถิ่นปิดเช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ในการทำสวนส้มนั้นไม่ได้ขายแค่ผลสดอย่างเดียว ที่สวนยังตอนกิ่งพันธุ์ ชำกับพื้นดินจำหน่าย ลำต้นเท่านิ้วก้อย สูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร ราคากิ่งละ 50 บาท รอบหนึ่งผลิตได้ประมาณ 100-200 กิ่ง แต่ก็ไม่พอขาย อยากให้สภาเกษตรกรจังหวัดแพร่เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงเรื่องของการแปรรูป การตลาด การอบรมให้ความรู้ ด้วยพืชเศรษฐกิจผัก ผลไม้ ยางพารา อื่นๆต่างก็มีพี่เลี้ยง มีตัวช่วย แต่ส้มนั้นไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลช่วยเหลือ สภาเกษตรกรเป็นปากเสียงตัวแทนของเกษตรกรจึงหวังพึ่งต่อไป

Leave a comment