#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/513284

ตามดูน้องๆ ‘ไทยราษฎร์คีรี’ ต่อยอดเลี้ยงไก่ไข่ สู่ทักษะอาชีพ
วันเสาร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
ห่างจากตัวเมืองจังหวัดตากออกไปประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของ “โรงเรียนไทยราษฎร์คีรี” ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ โรงเรียนขนาดกลางที่มีจำนวนนักเรียน 807 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 42 คน จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนครึ่งหนึ่งเป็นเด็กชาวเขาชนเผ่าต่างๆ เช่น พม่า กะเหรี่ยง มอญและม้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ปกครองมีฐานะยากจน
โรงเรียนไทยราษฎร์คีรี ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เมื่อปี 2560 ภายใต้ความร่วมมือของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ดำเนินการร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2532 ช่วยบรรเทาปัญหาทุพโภชนาการของเด็กและเยาวชนด้วยการส่งเสริมให้เข้าถึงการบริโภคไข่ไก่ที่เป็นโปรตีนคุณภาพจนถึงปัจจุบัน มีพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนโครงการฯ อาทิ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และ หอการค้าญี่ปุ่น- กรุงเทพฯ (JCC) ซึ่งโรงเรียนไทยราษฎร์คีรี เป็นโรงเรียนลำดับที่ 662 จากทั้งหมด 855 โรงเรียนทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ
จากปี 2560 ปีแรกที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนแม่ไก่ 300 ตัว จากซีพีเอฟ รวมทั้งมีการสร้างโรงเรือนมาตรฐานพร้อมอุปกรณ์ อาหารไก่ วัคซีน ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมกับส่งผู้เชี่ยวชาญของซีพีเอฟถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงไก่ไข่ให้คุณครูและนักเรียนที่รับผิดชอบโครงการฯ ปัจจุบันโรงเรียนเลี้ยงไก่ไข่เป็นรุ่นที่ 2อีก 300 ตัว เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้การเลี้ยงสัตว์สู่โรงเรียนและขยายผลสู่ชุมชนต่อไป ทำให้เกิดการเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้สู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน
.jpg)
นอกจากผลผลิตไข่ไก่ที่สามารถนำส่งเข้าโครงการอาหารกลางวันนักเรียนได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เด็กนักเรียนได้รับประทานไข่ไก่ 3 มื้อต่อสัปดาห์ ตามเป้าหมายของโครงการฯแล้ว โรงเรียนส่งเสริมการจัดกิจกรรมแปรรูปผลผลิตไข่ไก่เป็นอาหารหลากหลายเมนู สอดคล้องไปกับหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนที่เน้นส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับเด็กๆ อาทิ กิจกรรมของชุมนุมอาหารที่นำไข่ไก่มาแปรรูปเป็นคุกกี้ เค้ก เพื่อจำหน่ายในร้าน In Doischoolshop ร้าน INCA Coffee ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าและร้านเบเกอรี่ของโรงเรียน และจำหน่ายในร้านค้าสหกรณ์ ส่งเสริมเด็กๆ มีรายได้ระหว่างเรียน เงินที่ได้รับเด็กๆ นำไปบริหารจัดการในเรื่องที่จำเป็น เช่น การศึกษา เก็บออม และส่งเสริมให้เด็กนักเรียนทุกคนมีสมุดเงินฝากออมทรัพย์
“เมา เมา” เด็กนักเรียนชาวพม่า อายุ 19 ปี ชั้น ม.2 เล่าว่าได้เรียนรู้เรื่องการเลี้ยงไก่ไข่มาตั้งแต่โรงเรียนเลี้่ยงไก่รุ่นแรก ดีใจเพราะทำให้ผมมีรายได้ตอบแทนจากการเลี้ยงไก่ไข่เดือนละ 1,000 บาท ผมต้องดูแลแม่ที่ป่วยทำงานไม่ได้และน้องสาวอีก 2 คน โครงการนี้ทำให้เด็กนักเรียนได้ทานไข่ไก่เป็นอาหารกลางวันสัปดาห์ละ2-3 มื้อ และความรู้เรื่องวิธีการเลี้ยงไก่ไข่ที่ถูกต้องจากพี่ๆ ซีพีเอฟ ผมสามารถถ่ายทอดและให้คำแนะนำกับเพื่อนๆ ไปใช้ได้จริง ส่วนด.ช.พงศกร กาบแก้ว อายุ 15 ปี นักเรียนคนไทยชั้น ม.3 เล่าว่า โครงการนี้มีประโยชน์หลายอย่างที่บ้านผมเลี้ยงไก่บ้านไว้ และมีไก่ป่วยตาเป็นฝ้าขาว ผมได้รับคำแนะนำจากเมา เมา ซึ่งมีประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่ไข่ให้ผมไปซื้อยามาหยอด แค่สัปดาห์เดียวตาของไก่ก็กลับมาเป็นปกติในอนาคตผมอยากมีร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเองจึงสนใจเรียนรู้การทำอาหาร กิจกรรมในชุมนุมอาหารของโรงเรียนที่นำผลผลิตไข่ไก่มาแปรรูปเป็นเมนูต่างๆ เช่น คุกกี้ เค้ก เค้กกล้วยหอม ขนมปังและขนมดอกจอก ซึ่งเป็นสูตรที่นำไข่แดงมาผสมเพื่อเพิ่มความอร่อย ฯลฯ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราวางจำหน่ายที่่ร้านกาแฟ INCA Coffee ของโรงเรียน เด็กๆ ได้ฝึกทักษะอาชีพที่ตัวเองสนใจและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นความรู้ที่นำไปใช้ได้ต่อไป
ซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท สพฐ. และพันธมิตร มุ่งมั่นเดินหน้าโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันของนักเรียน ส่งมอบโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่เยาวชนและชุมชน ไม่ใช่แค่เป้าหมายให้เด็กและเยาวชนได้อิ่มท้องด้วยอาหารโปรตีนคุณภาพสูงอย่างไข่ไก่ แต่ยังเป็นการเติมอาหารสมองจากโอกาสที่เด็กและเยาวชนจะได้เรียนรู้ทักษะอาชีพ และทักษะการบริหารจัดการเชิงธุรกิจอีกด้วย

