รายงานพิเศษ : ธุรกิจโคนมโตต่อเนื่อง ย้ำผู้สอบบัญชีประเมินความเสี่ยงรอบด้าน #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/514498

รายงานพิเศษ :  ธุรกิจโคนมโตต่อเนื่อง  ย้ำผู้สอบบัญชีประเมินความเสี่ยงรอบด้าน

รายงานพิเศษ : ธุรกิจโคนมโตต่อเนื่อง ย้ำผู้สอบบัญชีประเมินความเสี่ยงรอบด้าน

วันศุกร์ ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยภาพรวมปริมาณธุรกิจของสหกรณ์โคนม ชี้เติบโตและขยายช่องทางการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องในระยะ 10 ปี รวมทุนดำเนินงานกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทเน้นผู้สอบบัญชีสหกรณ์ ประเมินความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจแต่ละประเภทพร้อมตรวจสอบข้อมูลด้านการเงินการบัญชี เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์และเท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ลดความเสี่ยงการทุจริตและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกได้รับผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม

จินดา เสถียรุจิกานนท์

นางสาวจินดา เสถียรุจิกานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีและการสอบบัญชีสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า การเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพที่เกิดจากพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเล็งเห็นว่า อาชีพเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารมีคุณค่า มีอาชีพมั่นคงเป็นหลักแหล่ง ทรงได้รับการน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญาว่า “พระบิดาแห่งการโคนมไทย”ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรวมกลุ่มดำเนินการในรูปสหกรณ์ตามแนวพระราชดำริ หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนจึงร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาต่อเนื่อง ด้านจัดการฟาร์มโคนมและแปรรูปอุตสาหกรรมนมครบวงจร และได้รับการยอมรับระดับสากลว่า ไทยเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ด้านส่งเสริมการเลี้ยงโคนมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปี 2562 มีสหกรณ์โคนมรวม 94 สหกรณ์ จำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 19,389 คน

สำหรับธุรกิจของสหกรณ์โคนม คล้ายธุรกิจสหกรณ์ภาคการเกษตร ประกอบด้วย 1.ธุรกิจรับฝากเงิน ส่งเสริมให้สมาชิกออม นอกเหนือจากถือหุ้น 2.ธุรกิจให้สินเชื่อ ช่วยเหลือสมาชิกด้านเงินทุน เพราะการเลี้ยงโคต้องใช้เงินทุนค่อนข้างมาก 3.ธุรกิจรวบรวมแปรรูปผลผลิต ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของสหกรณ์ โดยรวบรวมน้ำนมดิบจากสมาชิก จำหน่ายให้บริษัทเอกชนหรือสหกรณ์อื่น สำหรับสหกรณ์ที่มีโรงงานแปรรูปนม จะนำน้ำนมดิบมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ได้แก่ นมพาสเจอร์ไรส์นมยูเอชที และไอศกรีม สำหรับผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม ส่วนใหญ่จำหน่ายให้โครงการอาหารเสริม (นมโรงเรียน) บางสหกรณ์กำลังผลิตของเครื่องจักรมีมาก ก็รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์นมให้บริษัทเอกชนเพื่อสร้างรายได้ให้คุ้มค่าการลงทุนเครื่องจักร

4.ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายให้สมาชิก ได้แก่ เวชภัณฑ์ อาหารสัตว์ และสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับอาหารสัตว์บางสหกรณ์ผลิตอาหารสัตว์จำหน่ายด้วย 5.ธุรกิจทำฟาร์มโคนม สำหรับธุรกิจนี้สหกรณ์ต้องพัฒนาคุณภาพฟาร์มและน้ำนมดิบให้มีมาตรฐาน จึงเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนและแรงงานค่อนข้างมาก 6.ธุรกิจขายและให้บริการด้านเครื่องดื่มและอาหาร เป็นธุรกิจใหม่ที่ได้รับความนิยม และขยายตัวเพิ่มขึ้นรองรับภาวะเศรษฐกิจภาพรวมที่ชะลอตัว และปรับตัวให้เข้าชีวิตวิถีใหม่ ที่เรียกว่า ยุค New Normal เช่น สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด ซึ่งขยายช่องทางจำหน่ายนมพาสเจอไรซ์เปิดธุรกิจใหม่ “ร้านแฟรนไชส์ หนองโพ Cafe”ขายแฟรนไชส์ให้กับนักลงทุนที่สนใจ และเพิ่มช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ดีลิเวอรี่ที่เติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากข้อมูลปริมาณธุรกิจของสหกรณ์โคนมในเวลา 10 ปีตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2562 ธุรกิจรวบรวมผลิตผล มีปริมาณมากที่สุดร้อยละ 45.15 รองลงมาเป็นธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายและแปรรูปในส่วนทุนดำเนินงานของสหกรณ์ 14,315.29ล้านบาท เป็นหนี้สิน 10,250.03 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 71.60 ในหนี้สินส่วนใหญ่เป็นเงินกู้และเครดิตการค้า 7,315.20 ล้านบาท และเป็นทุนของสหกรณ์ 4,065.27 ล้านบาท ส่วนของสินทรัพย์ทั้งสิ้นสหกรณ์ลงทุนในที่ดินอาคารและอุปกรณ์ 5,010.65 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35

นางสาวจินดากล่าวอีกว่า การดำเนินธุรกิจของสหกรณ์โคนม ที่หลากหลายซับซ้อนมากขึ้น มีการพัฒนาให้ทัดเทียมธุรกิจเอกชน กรมมุ่งเน้นให้ผู้สอบบัญชีสหกรณ์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของกรมฯ ในการปฏิบัติงานสอบบัญชี เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร รวมทั้งผู้ที่จะใช้ข้อมูลด้านการเงินการบัญชีของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีและมาตรฐานสอบบัญชีจึงจำเป็นต้องมีหลักการประเมินความเสี่ยงและตรวจสอบข้อมูลด้านการเงินการบัญชีของสหกรณ์อย่างถี่ถ้วนรอบด้าน อาทิ ด้านคุณภาพน้ำนมดิบ ควรสอบทานกระบวนการรวบรวมน้ำนมดิบของสหกรณ์ว่าปฏิบัติตามระบบอย่างสม่ำเสมอ โดยดูการปฏิบัติจริง และสอบถามเจ้าหน้าที่และสมาชิกที่มาส่งน้ำนมการวิเคราะห์การสูญเสียในแต่ละรอบการผลิต เนื่องจากการผลิตสินค้าจะมีการสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต

ดังนั้น ผู้สอบบัญชีจึงควรวิเคราะห์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบและหาความแตกต่าง หรือสิ่งผิดปกติ การสอบทานสัญญาและเงื่อนไขตรวจสอบว่า สหกรณ์ติดตามลูกหนี้การค้า หรือประสานงานกับตัวแทนอย่างไร หากเก็บมาแล้วไม่นำส่งสหกรณ์มีมาตรการเช่นไร นอกจากนี้จำเป็นต้องตรวจสอบว่าสหกรณ์วางแผนบริหารเงินทุนที่ได้มาและใช้ไปเพื่อรักษาสภาพคล่องให้เหมาะสม รวมถึงกำหนดราคาขาย วิเคราะห์หรือเปรียบเทียบรายได้ในแต่ละธุรกิจ และการบันทึกค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องตรวจสอบเอกสาร อนุมัติรายการ วิเคราะห์ เปรียบเทียบเพื่อให้เห็นสิ่งหรือรายการที่ผิดปกติ

“สหกรณ์ เป็นสถาบันทางเศรษฐกิจและสังคมที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของไทย โดยดำเนินธุรกิจที่หลากหลายเทียบเท่าภาคเอกชนและมีเงินทุนหมุนเวียนจำนวนมหาศาล ซึ่งหากนับรวมทุนดำเนินงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศขณะนี้ มีประมาณ 3.2 ล้านล้านบาทถือว่ามากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ จึงมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยผู้สอบบัญชีสหกรณ์ จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยวิเคราะห์ วางแผนให้สหกรณ์ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคตได้ และประเมินความเสี่ยงว่า ในกิจกรรมของสหกรณ์นั้น เรื่องใดเสี่ยงหรือต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างไร รวมทั้งสอดส่องดูแลพฤติกรรมของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิกทุกคนว่าได้รับการดูแลจากสหกรณ์เป็นอย่างดีและได้รับผลประโยชน์ที่พึงได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม”

Leave a comment