#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/517153

สหกรณ์ฯบางระกำใช้FASเพิ่มความแม่นยำโปร่งใส
วันพฤหัสบดี ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
นางกฤษณา ธรรมชีวิน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด จ.พิษณุโลกเปิดเผยว่า สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ ประกอบธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจัดสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจรวบรวมผลผลิต เช่น ข้าว ข้าวโพด ธุรกิจแปรรูปเมล็ดพันธุ์ข้าวข้าวสารแบรนด์บางระกำ มีทุนดำเนินงาน ณ วันปิดบัญชี 21 มีนาคม 2563 จำนวน 354ล้านบาท มีเงินฝากจากสมาชิก 107 ล้านบาท ผลดำเนินงานปี 2563 มีกำไรสุทธิ 8,600,000 บาท มีมูลค่าจากธุรกิจขายบริการ 678 ,300,000 บาท และกำไรจากธุรกิจสินเชื่อ 11 ล้านบาท โดยสมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก การดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ฯ จึงต้องเชื่อมโยงธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจรวบรวมผลผลิตไว้ด้วยกัน เพื่อให้สมาชิกได้รับบริการครบวงจรเป็นระบบ นอกจากนี้ สหกรณ์ฯยังมีโครงการส่งเสริมอาชีพให้สมาชิก โดยสหกรณ์จะให้สินเชื่อหรือสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่สมาชิกที่ร่วมโครงการ แล้วรับหน้าที่รวบรวมผลผลิตของสมาชิกเพื่อจัดจำหน่าย เมื่อสมาชิกจำหน่ายผลผลิตแล้ว จึงนำเงินกู้มาคืนให้สหกรณ์
จะเห็นว่า สหกรณ์ดำเนินธุรกิจและจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพให้สมาชิกที่หลากหลายการบริหารจัดการทางบัญชี จึงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการรอบคอบโปร่งใส ซึ่งในอดีตสหกรณ์เคยได้ทดลองนำโปรแกรมทางบัญชีของเอกชนมาใช้ แต่ยังพบปัญหาบางประการ กระทั่งเปลี่ยนมาใช้โปรแกรมระบบบัญชีครบวงจร (FAS) ซึ่งเป็นนวัตกรรมของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์เข้ามาช่วยบริหารงาน ทำให้มีประสิทธิภาพบริหารจัดการทางบัญชีมากขึ้น โดยสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด ถือเป็นสหกรณ์แรกในจ.พิษณุโลก ที่นำโปรแกรม FAS ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์มาใช้ ภายใต้การแนะนำของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก พบว่าช่วยให้สหกรณ์คล่องตัวหลายด้าน ทั้งผู้บริหารสหกรณ์สามารถนำข้อมูลสารสนเทศทางการเงิน มาใช้ประกอบการตัดสินใจบริหารจัดการได้รวดเร็ว ใช้ข้อมูลแต่ละโปรแกรมตรวจสอบรายงานสถานะทางการเงินและแยกประเภทได้ทุกสิ้นวัน และปิดบัญชีประจำปีสามารถจัดพิมพ์รายงานการเคลื่อนไหวและยอดคงเหลือจัดทำรายละเอียดประกอบงบการเงิน เพื่อจัดส่งให้ผู้สอบบัญชีได้ มีระบบเตือนภัยทางการเงิน ระบบออกใบเสร็จ ที่สะดวกแม่นยำมากขึ้นรวมถึงยังดูรายงานและวิเคราะห์หนี้ของสมาชิกได้ ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใช้โปรแกรมให้ดียิ่งขึ้น ปีนี้สหกรณ์ฯยังจัดทำแผนกลยุทธ์ภายใต้พันธกิจ “สหกรณ์จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ ด้วยโปรแกรมระบบบัญชีครบวงจรอย่างมีประสิทธิภาพ”ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯ ได้กำหนดนโยบายร่วมพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีครบวงจรร่วมกับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานที่หลากหลายของสหกรณ์ฯ
นางกฤษณากล่าวอีกว่า การใช้โปรกรมระบบบัญชีครบวงจร ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อนและสามารถเรียนรู้ให้เข้าใจง่าย ซึ่งในส่วนสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จะอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อเสริมสร้างความรู้เพิ่มศักยภาพการทำงาน ให้มีความรู้ด้านใช้โปรแกรม และระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงเรียนรู้แก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ และแก้ระบบโปรแกรม หากเกิดกรณีมีข้อผิดพลาดขึ้นซึ่งจะมีวิทยากรทั้งในส่วนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และหน่วยงานอื่น ที่เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เข้ามาให้คำแนะนำตามที่สหกรณ์ร้องขอ ทำให้การใช้โปรแกรมระบบบัญชีครบวงจรของสหกรณ์คล่องตัว เมื่อเกิดข้อขัดข้องทางโปรแกรม ผู้ปฏิบัติงานสามารถเชื่อมโยงกับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก แก้ปัญหาได้ทันที ไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไข ลดอุปสรรคทำงานได้ดี และปีนี้สหกรณ์ฯมีแผนที่จัดทำคู่มือใช้โปรแกรม เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานแต่ละฝ่ายนำไปใช้ เพิ่มความแม่นยำและเพิ่มประสิทธิภาพอีกด้วย
ส่วนการเชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์กับสมาชิก สหกรณ์ยังนำนวัตกรรม Smart4M ที่ใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เข้าถึงได้ง่าย มาส่งเสริมให้ผู้บริหารสหกรณ์และสมาชิกใช้ควบคู่กันไป ซึ่งนวัตกรรม Smart4M จะช่วยให้ทั้งผู้บริหารและสมาชิกสหกรณ์ตรวจสอบฐานะทางการเงินของสหกรณ์และของตนเองได้ตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ สร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก
“โปรแกรมระบบบัญชีครบวงจร (FAS) ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นระบบที่ดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการทางบัญชีให้สหกรณ์คล่องตัว แม่นยำเชื่อมโยงระหว่างผู้บริหารสหกรณ์ สมาชิกและผู้สอบบัญชี ทำให้เกิดความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นกับสมาชิก และทำให้สหกรณ์เข้มแข็ง”นางกฤษณา กล่าว