#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/519740

วันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก 2563 ร่วมผลักดันการรับรู้ เพิ่มโอกาสหายขาดของผู้ป่วย
วันจันทร์ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
วันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก ซึ่งตรงกับวันที่ ١٥ กันยายนของทุกปีเป็นวันที่ประเทศไทยและทั่วโลกร่วมกันรณรงค์ ต่อต้านและสร้างความตระหนักถึงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งถือเป็นโรคร้ายที่มีอุบัติการณ์สูงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองถือเป็นโรคที่พบได้มากเป็นอันดับหนึ่งในมะเร็งทางโลหิตวิทยา กับการพบจำนวนเคสใหม่กว่า ٦,٠٠٠ รายต่อปี คิดเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า ٣,٠٠٠ รายต่อปีในประเทศไทย และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหนึ่ง เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (Lymphocyte) ที่ทำหน้าที่สร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยเซลล์เหล่านี้พบได้ในต่อมน้ำเหลืองม้าม ไธมัส ไขกระดูกและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ Hodgkin Lymphoma (HL) และ Non-Hodgkin Lymphoma (NHL) โดย NHL เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในไทยและทั่วโลก ด้วยอุบัติการณ์ที่มากถึง 4 ใน 5 ราย ของผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
.jpg)
นายแพทย์ชวลิต หล้าคำมี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา โรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นโรคที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากพันธุกรรมแต่ความเสี่ยงในการเกิดโรคอาจพบได้ หากผู้ป่วยมีประวัติสัมผัสกับสารเคมีเป็นระยะเวลานาน อย่างไรก็ตาม มะเร็ง ต่อมน้ำเหลืองนับเป็นมะเร็งที่มีโอกาสหายขาดสูง ดังนั้นการสังเกตอาการนับเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะการได้รับวินิจฉัยในระยะเริ่มต้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการหายขาดให้กับผู้ป่วยได้ โดยอาการที่ต้องสงสัยของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองคือ มีก้อนโตขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น คอ รักแร้ หรือขาหนีบ และอาจมีอาการไข้เหงื่อออกตอนกลางคืนและน้ำหนักลดร่วมด้วย
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ประกอบไปด้วย อายุ เพศ การติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในผู้ป่วย HIV และโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune disease) และการสัมผัสสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง โดยอุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะเพิ่มขึ้นตามอายุ ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มผู้สูงอายุเพศชายมากกว่าเพศหญิง
ในปัจจุบันได้มีการรักษาด้วยเคมีบำบัดผ่านการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังสำหรับการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดระยะเวลาการรักษาในโรงพยาบาลลง เมื่อเทียบระหว่างการรับยาเคมีบำบัดชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำกับการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง พบว่าวิธีหลังประหยัดเวลาการรักษาและอยู่ในโรงพยาบาลได้ถึง ٣٢ เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการรักษา เคมีบำบัดเป็นการรักษามาตรฐานที่สามารถใช้ควบคู่กับวิธีการรักษารูปแบบอื่นได้ อย่างเช่นการให้ยามุ่งเป้า ซึ่งให้ผลการรักษาที่ดีและ มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังเป็นการรักษาที่คนไทยทุกสิทธิเข้าถึงได้ทุกคน นอกจากนั้นการรักษาด้วยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่เข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญในการย่นระยะเวลารักษาให้กับผู้ป่วย โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ระยะเวลาในการรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพนั้น นอกจากจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยแล้วยังสามารถช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์มีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย
ถึงแม้ว่าโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะพบได้มากที่สุดในเพศชายช่วงอายุ 6٠-7٠ ปี แต่การเฝ้าระวังและสร้างความรับรู้เกี่ยวกับโรคนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชากรทั่วไป เนื่องจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นโรคที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย โดย นางสาวโชติมาเทิดวิกรานต์ ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองวัย 35 ปีที่พบก้อนเนื้อผิดปกติใต้ผิวหนังบริเวณหน้าอกเมื่อห้าปีก่อนด้วยวัยเพียง 30 ปี ถือเป็นตัวอย่างของผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ด้วยความตื่นตัวและการสังเกตความผิดปกติในร่างกาย ทำให้เธอรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษา จนปัจจุบันสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
.jpg)
นางสาวโชติมา เทิดวิกรานต์ได้เล่าถึงประสบการณ์ต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหลังตรวจพบเมื่อปี 2558 ว่า ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีอาการป่วย หรือเข้าข่ายต่อการเป็นโรคร้ายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เมื่อเราพบก้อนเนื้อผิดปกติบนร่างกายก็ตัดสินใจไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อความสบายใจ และเมื่อพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็เริ่มทำการรักษาด้วยเคมีบำบัดทันที เนื่องจากเราเริ่มรักษาตั้งแต่ระยะแรก ทำให้เราไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก แต่ในเชิงกลับกันต้องมาประสบกับผลกระทบที่ค่อนข้างร้ายแรงของเคมีบำบัด อีกทั้ง ยังต้องใช้เวลารักษาที่ค่อนข้างนาน โดยส่วนตัวแล้วใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ในการรับยาเคมีบำบัดชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำในแต่ละรอบ ซึ่งทำให้เกิดความอ่อนเพลียและเสียเวลาไปกับการรักษาเป็นอย่างมาก
เนื่องในวันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก ในฐานะที่ได้ผ่านประสบการณ์กับโรคนี้มาแล้ว ขอส่งกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคนและขอเป็นกระบอกเสียงในการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับโรคนี้ให้แพร่หลายมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทั่วไปรับรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงและคอยสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นโรคที่มีโอกาสหายขาดสูงมากหากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ กำลังใจจากคนรอบข้างยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจต่อสู้กับโรคได้สำเร็จ