ปวดข้อ-เข่าเรื้อรังไม่หายเสียที รีบเช็คปวดแบบไหนเสี่ยงโรค ‘ข้อเข่าเสื่อม’ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

ผู้หญิง – ปวดข้อ-เข่าเรื้อรังไม่หายเสียที รีบเช็คปวดแบบไหนเสี่ยงโรค‘ข้อเข่าเสื่อม’ (naewna.com)

ปวดข้อ-เข่าเรื้อรังไม่หายเสียที   รีบเช็คปวดแบบไหนเสี่ยงโรค‘ข้อเข่าเสื่อม’

ปวดข้อ-เข่าเรื้อรังไม่หายเสียที รีบเช็คปวดแบบไหนเสี่ยงโรค‘ข้อเข่าเสื่อม’

วันเสาร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 09.26 น.

28 พฤศจิกายน 2563 เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ความเสื่อมของร่างกายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โรคภัยเริ่มถามหาโดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหลายคนจะเข้าใจว่า เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ แต่ความเป็นจริงแล้ว กลุ่มวัยรุ่นก็เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเรื่องข้อเข่าเสื่อมด้วยเช่นกัน

โรคข้อเข่าเสื่อมว่า จากสถิติแล้วพบว่า เป็น 1 ใน 5 ปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุไทยเลยทีเดียว

โรคข้อเข่าเสื่อมนั้น เกิดจากการที่กระดูกอ่อน ผิวข้อมีการสึกหรอ หลุดร่อน ทำให้กระดูกมีการเสียดสีกัน และร่างกายพยายามที่จะซ่อมแซมตัวเอง โดยการสร้างกระดูกขึ้นมาใหม่ แต่จะเป็นการสร้างในตำแหน่งที่ไม่ควรจะสร้าง ทำให้เกิดอาการอักเสบของข้อ ปวดเรื้อรัง บวม กดเจ็บ เคลื่อนไหวลำบาก และข้อผิดรูป

สำหรับ สาเหตุของข้อเข่าเสื่อมได้แก่ อายุที่มากขึ้น, น้ำหนักตัวที่มากเกินไป, พฤติกรรมการใช้ข้อผิดวิธี เช่น การนั่งยองๆนั่งคุกเข่า นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิเป็นเวลานาน,เคยได้รับบาดเจ็บบริเวณเข่า เช่น กระดูกหักเข่าแตก เอ็นฉีก เป็นต้น,โรคที่เคยเป็น เช่น โรครูมาตอยด์ โรคเกาต์, การไม่ออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าไม่แข็งแรงและการใช้ยา โดยมีการใช้ยาสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

นอกจากนี้ คุณหมอแนะว่า อาการแบบไหนเข้าข่ายเสี่ยงเป็นข้อเข่าเสื่อม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอาการดังนี้ ได้แก่ ปวดหรือเจ็บข้อเข่าเวลาเดิน นั่ง หรือขึ้นลงบันได, ปวดเรื้อรังหลายปี,เข่าโตขึ้น ข้อเข่าบวม, ขาโก่ง

สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคข้อเข่าเสื่อมมีหลายกลุ่ม เช่น น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน,ผู้ที่ปวดเข่าเรื้อรังหลายปี, อายุมากกว่า40 ปี, เคยป่วยด้วยโรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์โรคพุ่มพวง (SLE) โรคเกาต์, เคยเกิดอุบัติเหตุทำให้มีกระดูกหักบริเวณข้อเข่า

ส่วนแนวทางการรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่

1.การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด และช่วยให้เข่าเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นโดยมีหลากหลายวิธี ดังนี้ 

-ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ได้แก่ รับประทานอาหารที่เหมาะสมเพื่อควบคุมน้ำหนักตัว

-ออกกำลังกายชนิดส่งแรงกระแทกข้อเข่าน้อยเป็นประจำ เช่นว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เดิน เพื่อส่งเสริมให้ข้อเข่าแข็งแรงขึ้น, ลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักตัวมากเกินไป เพื่อลดแรงกดบนข้อเข่า

-รักษาด้วยยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์และยากลุ่มสารอาหารเสริมสร้างกระดูก,ฉีดสารน้ำเลี้ยงไขข้อ ในกรณีที่มีอาการปวดไม่มากและการทำลายของกระดูกอ่อนยังไม่รุนแรง,ฉีดยาสเตียรอยด์ ในกรณีที่มีอาการปวดเฉียบพลันที่รุนแรงและเป็นครั้งคราว, ทำกายภาพบำบัดเช่น บริหารกล้ามเนื้อรอบเข่า

2.การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ได้แก่ ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จำเป็นในกรณี รักษาด้วยยาและปรับวิธีดำเนินชีวิตแล้วไม่ได้ผล 

Leave a comment