#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ในประเทศ – ‘บิ๊กป้อม’สั่งขับเคลื่อนกว๊านพะเยา เร่งฟื้นฟูใช้ประโยชน์เต็มศักยภาพ (naewna.com)

‘บิ๊กป้อม’สั่งขับเคลื่อนกว๊านพะเยา เร่งฟื้นฟูใช้ประโยชน์เต็มศักยภาพ
วันศุกร์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามการแผนพัฒนา ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.พะเยา พบว่า การพัฒนากว๊านพะเยาปัจจุบันเป็นการทำงานร่วมกันของหลายส่วนราชการ ทำให้การขับเคลื่อนแผนงานยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน จึงขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบ ให้เป็นไปตามแผนแม่บทการพัฒนากว๊านพะเยา โดยมอบให้ สทนช.พิจารณาแต่งตั้งคณะทำงาน พัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูกว๊านพะเยา ภายใต้คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ขึ้นมากำกับขับเคลื่อนแผนงานให้ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ ยังให้กรมประมงร่วมกับจังหวัดพะเยาหาแนวทางลดขั้นตอน เพื่อเร่งรัดให้การขับเคลื่อนตามแผนแม่บทฯคล่องตัวยิ่งขึ้น และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดรูปแบบการบริหารจัดการ การบริหารจัดการน้ำ การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ การเพาะปลูก และควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรมทางหลวงชนบท พัฒนาระบบเส้นทางและส่งเสริมรูปแบบการท่องเที่ยวกว๊านพะเยา เพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้จ.พะเยา รวมทั้งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสีย กำหนดรูปแบบระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่โดยรอบ ให้สามารถรองรับปริมาณน้ำเสียที่จะส่งผลกระทบต่อกว๊านพะเยาด้วย
ด้านดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า กว๊านพะเยา เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนบน ตั้งอยู่ใน ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา มีพื้นที่ 12,831 ไร่ ความจุ 55.65 ล้าน ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มีปริมาณน้ำไหลเข้าปีละ 330.70 ล้าน ลบ.ม. มีความต้องการใช้น้ำ 30.64 ล้าน ลบ.ม./ปี และอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีความต้องการใช้น้ำ 41.92 ล้านลบ.ม./ปี โดยกรมประมงเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดสรรงบประมาณปี 2560 พัฒนากว๊านพะเยาวงเงิน 343 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานขุดลอกกว๊านพะเยา พร้อมทั้งสร้างฝายพับเพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำจาก 33.84 ล้านลบ.ม. เป็น 55.65 ล้าน ลบ.ม. ตลอดจนพัฒนาศักยภาพกว๊านพะเยาเพื่อการท่องเที่ยว เฝ้าระวังและปรับปรุงคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อมด้านประมง กำจัดวัชพืชฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และจัดตั้งศูนย์บริหารโครงการพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยังได้รับงบประมาณปี 2562 วงเงิน 90 ล้านบาท ในการเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำอีกด้วย
สำหรับแผนการพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืนนั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ. เชียงราย เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 ได้รับอนุมัติวงเงินดำเนินงาน 3,153.7 ล้านบาท โดยเป็นงบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2,576 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณด้านทรัพยากรน้ำ 333 ล้านบาท ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์บริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ ดำเนินการโดยกรมชลประทาน การบูรณาการองค์ความรู้เพื่อบริหารจัดการน้ำ รักษาคุณภาพน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพเก็บกักและการบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยาอย่างเป็นระบบ ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยพะเยา การปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และงบประมาณด้านถนนและแหล่งท่องเที่ยวอีก 2,243.3 ล้านบาท ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่วนที่เหลือจะเป็นงบประมาณฟื้นฟูบำบัดน้ำ 92.5 ล้านบาท ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และงบการพัฒนาพื้นที่อีก 484.9 ล้านบาท ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นร่วมกับมหาวิทยาลัยพะเยา
ในส่วนการพัฒนาหนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 5,563 ไร่ ปัจจุบันสามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 9 ล้าน ลบ.ม. โดยมีแผนพัฒนาฟื้นฟูเป็น 4 ระยะ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถกักเก็บน้ำได้ 23.97 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากเดิม 14.97 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์อีก 10,000 ไร่ 7,000 ครัวเรือน งบประมาณทั้งสิ้น 587.65 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา ในปีงบประมาณ 2563 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมดำเนินงานในระยะที่ 1 จำนวน 2 โครงการ โดยให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ 2 แห่งงบประมาณ 48.57 ล้านบาท และปรับปรุงและฟื้นฟูร่องน้ำเดิม 11 กิโลเมตรงบประมาณ 162.07 ล้านบาท และระยะที่ 2 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ การฟื้นฟูแก้มลิงงบประมาณ 92.94 ล้านบาท และเพิ่มประสิทธิภาพกักเก็บน้ำ สร้างฝายพับได้ 44.06 ล้านบาท
“ส่วนแผนพัฒนาหนองเล็งทรายระยะถัดไป ในระยะที่ 3 ฟื้นฟูแหล่งน้ำรอบหนองเล็งทราย 120 ล้านบาท เพิ่มการเก็บกัก 1.695 ล้าน ลบ.ม. และระยะที่ 4 ฟื้นฟูหนองเล็งทราย บริเวณหน้าฝาย 600 ไร่ 120 ล้านบาท เพิ่มการเก็บกัก 0.98 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งในวันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ สทนช. เป็นเจ้าภาพบูรณาการหน่วยงานจัดทำแผนหลักพัฒนาหนองเล็งทราย พร้อมตั้งกรอบวงเงินให้ครอบคลุมการพัฒนาในทุกด้านแบบเบ็ดเสร็จ และมอบกรมชลประทานเร่งดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตามพระราชดำริในพื้นที่จ.พะเยา ทั้งหมด ให้แล้วเสร็จตามแผน รวมทั้งยังขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานให้เร่งดำเนินการตามงานที่ได้มอบไปแล้ว เพื่อให้การจัดการทรัพยากรน้ำใน จ.พะเยา มีประสิทธิภาพ เกิดความมั่นคง อำนวยประโยชน์สุขให้ประชาชนโดยเร็วอีกด้วย” เลขาธิการ สทนช. กล่าว