#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/738622

วันพุธ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
นายประกอบ เผ่าพงศ์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า การเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมในเขตภาคเหนือ เป็นการเลี้ยงไหมเชิงพาณิชย์ที่เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมประกอบเป็นอาชีพหลัก ปัจจุบันผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตรังไหมจากเกษตรกร 5,000 ตันต่อปี แต่เกษตรกรผลิตรังไหมได้เพียง 2,000 ตันต่อปี เนื่องจากเกษตรกรผลิตรังไหมได้น้อยเพราะขาดพันธุ์ไหมที่ให้ผลผลิตดีและมีความเหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ส่งผลทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงสูงในการเลี้ยงไหมคือมีประสิทธิภาพและเปอร์เซ็นต์การเลี้ยงรอดต่ำ จึงทำให้ในแต่ละปีผลผลิตรังไหมไม่เพียงพอต่อการป้อนส่งให้ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในเชิงธุรกิจ จึงวิจัยปรับปรุงไหมพันธุ์ไหม สร้างไหมที่มีความแข็งแรงและการเจริญเติบโตที่ดี สามารถเพิ่มผลผลิตทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพเส้นไหม นั่นก็คือไหมพันธุ์ NAN X J108 (ลูกผสมระหว่างพันธุ์เอ็นเอเอ็นและพันธุ์เจ108) จากไหมรังสีเหลืองสายพันธุ์เอ็นเอเอ็น (NAN) ผสมกับไหมรังสีขาวพันธุ์ J108 ซึ่งเป็นพันธุ์ต่างประเทศ โดยจากการศึกษาวิจัยพบว่าไหมพันธุ์ใหม่ดังกล่าว สามารถเลี้ยงได้ดีให้ผลผลิตรังไหมสูงในเขตภาคเหนือ โดยเฉพาะในฤดูหนาวมากที่สุด มีลักษณะทางเกษตรที่ดี รังไหมสีเหลืองขนาดใหญ่ น้ำหนักรังสดสูง และน้ำหนักเปลือกรังดี มีเปอร์เซ็นต์เปลือกรังสูงขึ้น ประมาณ 20 – 21 เปอร์เซ็นต์มีคุณลักษณะการสาวที่ดี สาวออกง่าย ให้ความยาวเส้นใยต่อรังมาก และสามารถเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตรังไหมได้สูง