รวบแล้ว นักท่องเที่ยวมือบอนขูดกำแพงโคลอสเซียม อ้างไม่ทราบความเก่าแก่ของสถานที่

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2707422

รวบแล้ว นักท่องเที่ยวมือบอนขูดกำแพงโคลอสเซียม อ้างไม่ทราบความเก่าแก่ของสถานที่

6 ก.ค. 2566 14:46 น.

รวบแล้ว นักท่องเที่ยวมือบอนขูดกำแพงโคลอสเซียม อ้างไม่ทราบความเก่าแก่ของสถานที่

ตำรวจอิตาลีตามรอยจนเจอตัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ใช้กุญแจสลักชื่อบนกำแพงโคลอสเซียมที่อายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ขณะที่เจ้าตัวอ้างไม่รู้ถึงความเก่าแก่ของสถานที่

นักท่องเที่ยวจากอังกฤษที่ถูกกล่าวหาว่าสร้างความเสียหายให้แก่โคลอสเซียม กล่าวว่า เขาไม่ทราบถึงอายุของอนุสรณ์สถานโบราณ โดยนายอิวาน ดิมิทรอฟ ครูสอนฟิตเนสวัย 27 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองบริสตัล เขียนจดหมายขอโทษ นายโรแบร์โต กัวติเอรี นายกเทศมนตรีกรุงโรม หลังจากถูกกล่าวหาว่าสลักชื่อของเขาและแฟนสาวไว้ที่ผนังภายในโคลอสเซียม โบราณสถานสำคัญอายุ 2,000 ปี

ในจดหมาย นายดิมิทรอฟ ซึ่งถูกตำรวจอิตาลีติดตามไปยังอังกฤษ หลังจากการค้นหานาน 5 วัน เขียนว่าตอนนี้เขาเพิ่งตระหนักถึง “ความร้ายแรงของการกระทำที่กระทำ”

เขากล่าวเสริมในจดหมายที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ อิล เมสซาจโกโร เมื่อวันพุธว่า “ด้วยข้อความเหล่านี้ ผมอยากกล่าวคำขอโทษจากใจจริงและตรงไปตรงมาต่อชาวอิตาลีและคนทั้งโลก สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นมรดกของมนุษยชาติทั้งหมด” 

ดิมิทรอฟ ซึ่งต้องเผชิญกับโทษปรับอย่างหนัก และอาจถูกจำคุก ยังกล่าวยกย่องผู้ที่ปกป้องคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะอันประเมินค่าไม่ได้ของโคลอสเซียมด้วยความทุ่มเท เอาใจใส่ และเสียสละ ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “เป็นเรื่องน่าละอายอย่างยิ่ง ที่ผมเพิ่งได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเก่าแก่ของสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ หลังจากเกิดเรื่องน่าเสียใจขึ้น”

อัฒจันทร์ยุคโรมันแห่งนี้สร้างเสร็จในสมัยจักรพรรดิติตัสในปี ค.ศ.80 เป็นสถานที่ที่เหล่านักสู้จะต้องต่อสู้ทั้งกับบรรดานักสู้และสัตว์ป่า ซึ่งมีผู้ชมนับพัน

ดิมิทรอฟ ถูกนักท่องเที่ยวรายหนึ่งบันทึกภาพไว้ได้ ขณะที่กำลังใช้กุญแจขีดเขียนข้อความว่า “อีวาน + เฮย์ลีย์ 23” ลงบนผนังของโคลอสเซียม นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวได้โพสต์วิดีโอลงในยูทูบที่มีชื่อว่า “นักท่องเที่ยวโง่เขลาแกะสลักชื่อในโคลอสเซียมในกรุงโรม” ที่ถูกแชร์อย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย ทำให้ตำรวจทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และส่งผลให้เกิดเสียงประณามจากคนทั่วไป

ทั้งนี้ นายดิมิทรอฟ กำลังถูกสอบสวนเนื่องจากสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และหากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาจะต้องรับโทษปรับระหว่าง 2,500 ยูโร – 15,000 ยูโร หรือราว 95,000-570,000 บาท รวมทั้งโทษจำคุก 2-5 ปี ส่วนเฮย์ลีย์ แฟนสาวของเขาไม่ได้ถูกสอบสวน แม้ว่าเธอจะอยู่ในฐานะ “ผู้สมรู้ร่วมคิด” ก็ตาม

อเล็กซานโดร มาเรีย ทิเรลลี ทนายความของดิมิทรอฟ กล่าวกับอิล เมสซาจเจโรว่า “ชายคนดังกล่าวคือต้นแบบของชาวต่างชาติที่เชื่ออย่างงมงายว่าเขาได้รับอนุญาตให้ทำทุกอย่างได้ในอิตาลี แม้กระทั่งการกระทำสิ่งเหล่านี้ในประเทศของพวกเขาเองก็จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง”.

Leave a comment