โซไซตี้ : วว. ผนึกกำลัง สผ. ผลักดันระบบคลังข้อมูล ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/743824

โซไซตี้ : วว. ผนึกกำลัง สผ. ผลักดันระบบคลังข้อมูล  ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย

โซไซตี้ : วว. ผนึกกำลัง สผ. ผลักดันระบบคลังข้อมูล ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย

วันเสาร์ ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.

ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจการจัดทำระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย เพื่อสนับสนุน เชื่อมโยง และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรชีวภาพ พร้อมผลักดันระบบคลังข้อมูลให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการใช้งานระบบคลังข้อมูล การบำรุงรักษา และการปรับปรุงข้อมูลให้มีความทันสมัย ตลอดจนการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โอกาสนี้ ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ ดร.ประทีป วงศ์บัณฑิต รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. พร้อมผู้บริหารบุคลากรทั้งสองหน่วย งานร่วมเป็นเกียรติณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 5 อาคาร ADMIN วว. เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566

ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้คือการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลเข้ากับระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศสอดคล้องกับกรอบแนวคิดการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดย วว. มีฐานข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของประเทศ อาทิ ศูนย์จุลินทรีย์ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมการเก็บรักษาสายพันธุ์จุลินทรีย์นอกถิ่นกำเนิด ที่มีประโยชน์ต่อภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ระบบมาตรฐานสากล (ISO) ที่ให้บริการด้านจุลินทรีย์ (Service Culture Collection) แห่งเดียวในประเทศไทยและได้รับการจัดตั้งขึ้โดย UNESCO เมื่อปีพ.ศ. 2519 รวมทั้งสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ซึ่งได้รับการรับรองจาก UNESCO ภายใต้โครงการ MAB (Man and Biosphere Program) ให้เป็นแหล่งสงวนชีวมณฑลแห่งหนึ่งของโลกซึ่งเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และเป็น 1 ใน 7 แห่งของเอเชีย ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด (In-situ) และเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐเอกชน และประชาชน อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป

เลขาธิการ สผ. กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย (TH-BIF) มาจากการดำเนินงานเพื่อตอบสนองทิศทางนโยบายของประเทศไทยในเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการข้อมูล โดยเฉพาะการดำเนินงานภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2561-2565 ในประเด็นปฏิรูปเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาระบบด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ขยายการดำเนินงานเชื่อมโยงฐานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพกับหน่วยงานเครือข่ายเพิ่มขึ้น เพื่อให้TH-BIF มีข้อมูลที่พร้อมใช้ มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน สามารถใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการวางแผน และประกอบการตัดสินใจในการอนุรักษ์ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลการใช้ทรัพยากรชีวภาพในอนาคต เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนร่วมกันต่อไป

Leave a comment