ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘Golden Boy’ เทวรูป ศิลปะขอม-พิมายกลับคืนถิ่น

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/806710

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘Golden Boy’ เทวรูป ศิลปะขอม-พิมายกลับคืนถิ่น

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘Golden Boy’ เทวรูป ศิลปะขอม-พิมายกลับคืนถิ่น

วันอาทิตย์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.02 น.

จากการที่ไทยโดยกระทรวงวัฒนธรรมและกรมศิลปากร ได้รับเทวรูปสำริดที่รู้จักกันดีว่า “Golden Boy” ประติมากรรมสำริดยืนปิดทองทั้งองค์ อันเป็นโบราณวัตถุสำคัญ ๑ ใน๒ ชิ้น ซึ่งเป็นประติมากรรมสตรีนั่งชันเข่าพนมมือสูงอีกชิ้นหนึ่งที่ไทยได้รับแจ้งคืนจากThe Metropolitan Museum of Art (The MET)ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ นับเป็นเรื่องน่ายินดีในประวัติศาสตร์และโบราณคดีของไทยที่มีการศึกษาใหม่จากนักวิชาการ ดร.ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระด้านโบราณคดี ได้ศึกษาและติดตามมาแต่แรกให้ความเห็นว่า เทวรูป “Golden Boy” นี้คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ ๖ มีรูปแบบศิลปะเขมรแบบพิมาย พ.ศ. ๑๖๒๓-๑๖๕๐ พบที่ปราสาทบ้านยางหรือบ้านยางโปร่งสะเดา ตำบลตาจงอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยชาวบ้านขุดพบตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๘ แล้วขายให้พ่อค้าในราคา ๑ ล้านบาท จากนั้นได้ถูกนำออกอย่างผิดกฎหมาย โดยผ่าน บริษัทประมูล Spink & Son และนำไปจัดแสดงที่ The MET นิวยอร์ก หากกำหนดรูปแบบศิลปะเขมรโดยนักวิชาการชาวฝรั่งเศส มักเรียกตามชื่อแบบศิลปะตามปราสาทสำคัญหรือปราสาทประจำรัชกาล เช่นปราสาทบาปวน สร้างโดยราชวงศ์ของพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ (พ.ศ.๑๕๖๐-๑๖๒๓) เรียกว่าศิลปะเขมรแบบบาปวน และมีโบราณวัตถุอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ปราสาทพนมวัน ปราสาทสด็อกก็อกธม เป็นต้น

คณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมและกรมศิลปากร

สำหรับปราสาทนครวัด ปราสาทประจำรัชกาลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๖ โบราณวัตถุเรียก ศิลปะเขมรแบบนครวัด พ.ศ. ๑๖๕๕-๑๖๘๘ ที่พบในไทย ได้แก่ โบราณวัตถุของปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทศรีขรภูมิ เป็นต้น ปราสาทบายน ซึ่งเป็นปราสาทประจำรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ เหลนของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๖ เรียกโบราณวัตถุว่าศิลปะเขมรแบบบายน พ.ศ. ๑๗๒๔-๑๗๖๓ที่พบในไทยก็ได้แก่ ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาเมือน กุฏิฤๅษีเมืองพิมาย เป็นต้น

ส่วนปราสาทหินพิมายนั้นเป็นปราสาทประจำรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๖ เรียกศิลปะนครวัดตอนต้น จึงควรเปลี่ยนชื่อตามปราสาทคือ ศิลปะเขมรแบบพิมาย พ.ศ. ๑๖๒๓-๑๖๕๐ ซึ่งมีรูปแบบศิลปะเขมรแบบพิมายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยได้พัฒนาการต่อเนื่องจากศิลปะแบบบาปวน และถ่ายทอดอิทธิพลต่อไปยังศิลปะแบบนครวัด จึงทำให้มีความแตกต่างไปจากศิลปะแบบบาปวนกับศิลปะแบบนครวัดอย่างชัดเจน ศิลปะแบบพิมายที่พบในกัมพูชานั้นพบที่ ปราสาทพงตึก สำหรับเทวรูป “GoldenBoy” นี้ มีพัฒนาการของผ้านุ่งสั้นที่มีชายสมอรูปหางปลาด้านหน้า ผ้านุ่งสั้นที่โค้งเว้าเห็นสะดือแบบบาปวน มีเข็มขัดรัด แต่ไม่มีชายผ้าบนชายสมอต่อตรงลงมาจากขอบผ้านุ่งเหนือเข็มขัด ได้ส่งต่อยังศิลปะแบบพิมาย ซึ่งยังใช้ต่อเนื่องมาจนถึงศิลปะแบบนครวัดตอนต้น ด้วยเหตุที่ลักษณะผ้านุ่งของ Golden Boy นั้นใกล้เคียงกับภาพสลักผ้านุ่งที่ปรากฏในปราสาทหินพิมายมากกว่าที่อื่น จึงเรียกศิลปะเขมรแบบพิมาย ในส่วนที่ว่าเป็น รูปพระเจ้าชัยวรมันที่ ๖ ขุดพบที่บ้านยางนั้นมีความสำคัญสอดคล้องกับหลักฐานจารึก ที่พบบริเวณที่ราบเขาพนมรุ้ง ซึ่งกล่าวถึงต้นกำเนิด“ราชวงศ์มหิธรปุระ” ราชวงศ์ใหม่ที่สถาปนาโดยพระองค์  จารึกปราสาทพระขรรค์ นั้นได้กล่าวถึงพระองค์ที่ทรงเลือกถิ่นฐานเดิม เพื่อตั้งราชธานีปกครองอาณาจักรเขมร เชื่อว่าคือ “เมืองพิมาย” ก่อนที่เชื้อสายของราชวงศ์มหิธรปุระจะย้ายเมืองหลวงกลับไปยังเมืองพระนคร แล้วสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกคือ “ปราสาทนครวัด” ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ยังมีความเห็นต่างจากนักวิชาการ อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องพากันไปชมที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และขอบคุณคณะผู้ติดตามขอคืนจนสำเร็จ

ทวรูปสำริดนั่ง และเทวรูปสำริดยืน ที่ได้รับคืน

ทวรูปสำริดนั่ง และเทวรูปสำริดยืน ที่ได้รับคืน

ทวรูปสำริดนั่ง และเทวรูปสำริดยืน ที่ได้รับคืน

ทวรูปสำริดนั่ง และเทวรูปสำริดยืน ที่ได้รับคืน

การบรรจุขนส่งอย่างดี

การบรรจุขนส่งอย่างดี

บรรยากาศการเข้าชม

บรรยากาศการเข้าชม

การตรวจรับโบราณวัตถุ

การตรวจรับโบราณวัตถุ

Leave a comment