ไม่ใช่คอนเทนต์! ‘ลิลลี่’แจงดราม่าร้องไห้บนเครื่องบิน ยันเป็นภาวะแพนิค

ไม่ใช่คอนเทนต์! 'ลิลลี่'แจงดราม่าร้องไห้บนเครื่องบิน ยันเป็นภาวะแพนิค

ไม่ใช่คอนเทนต์! ‘ลิลลี่’แจงดราม่าร้องไห้บนเครื่องบิน ยันเป็นภาวะแพนิค

วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 16.09 น.

จากกรณีที่นักแสดงสาว “ลิลลี่ ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ” ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะร้องไห้ด้วยความตกใจอย่างหนัก หลังประสบเหตุการณ์เครื่องบินตกหลุมอากาศ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา ทั้งจากแฟนคลับที่เข้ามาให้กำลังใจ และบางส่วนที่แสดงความคิดเห็นในเชิงลบ มองว่าเป็นการสร้างคอนเทนต์ หรือแสดงอาการเกินจริงนั้น

ล่าสุด ลิลลี่ ภัณฑิลา ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงอย่างละเอียดผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @lilyypantila โดยเริ่มต้นด้วยการขอบคุณทุกความห่วงใยและกำลังใจที่ส่งมาให้ พร้อมทั้งกล่าวถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นว่า

“ลี่ขอบคุณทุกคนมากนะคะ สำหรับความห่วงใยและกำลังใจที่ส่งเข้ามา ลี่ได้อ่านทุกข้อความ รู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ ค่ะ และลี่ขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงสำหรับบางความคิดเห็นที่มองว่า เป็นการทำคอนเทนต์รึเปล่า ถ่ายคลิปทำไม ทำไมต้องร้องไห้ขนาดนั้น กลัวมากเกินไปไหม

ลี่อยากชี้แจงว่าลี่อยู่ในสภาวะที่กลัวมากและไม่รู้เลยว่าผู้ช่วยได้บันทึกคลิปไว้ จนกระทั่งออกจากเครื่องบินแล้วถึงได้เห็น ลี่อยากพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ภาวะแพนิกเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ มันไม่ใช่ความกลัวธรรมดา แต่เป็นอาการทางจิตใจที่ร่างกายตอบสนองอย่างรุนแรงต่อสถานการณ์ที่รู้สึกว่า “ไม่ปลอดภัย” ซึ่งคนที่ไม่เคยเผชิญด้วยตัวเอง อาจไม่สามารถเข้าใจได้ ยิ่งคนที่เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มาก่อน มันผวามากค่ะ

ปกติลี่เป็นคนมีสติและควบคุมตัวเองได้ดี แต่ลี่ไม่เคยมีประสบการณ์บนเครื่องบินที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน ทั้งที่ปกติลี่เดินทางบ่อยและค่อนข้างสบายใจกับการขึ้นเครื่องบิน ไม่เคยมีปัญหากับการเดินทางทางอากาศเลย แต่ครั้งนี้มันรุนแรงและยาวนานเกินกว่าที่ลี่เคยเจอมา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ลี่รู้สึกเหมือน “ไม่รู้จะทำยังไง” กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันเข้ามาในหัวเยอะมาก

ลี่เข้าใจนะคะว่าทุกคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน และความกลัวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ลี่ไม่เคยมีปัญหากับการแสดงความคิดเห็นและไม่เคยตอบโต้ใดๆ แต่ครั้งนี้บางคอมเมนต์มันแรงเกินไปจริงๆ ค่ะ

ลี่อยากให้ทุกคนช่วยใช้ความเข้าใจและพิจารณาให้รอบด้านก่อนพิมพ์ บางคำพูดส่งผลมากกว่าที่คิด เพราะในโลกความเป็นจริง เราไม่มีทางรู้เลยค่ะว่าคนๆ นั้นต้องเผชิญกับอะไรอยู่บ้างในขณะนั้น

ลี่แค่อยากแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนใจหรือเป็นอุทาหรณ์กับใครก็ตามที่อาจเจอสถานการณ์คล้ายกัน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจนะคะ”

Leave a comment