‘สมชาย-ชาญชัย-ทนายนกเขา’บุก​ทวงถาม​ ป.ป.ช. ยื่นศาลถอดถอน​’ครม.เศรษฐา-อุ๊งอิ๊งค์’

'สมชาย-ชาญชัย-ทนายนกเขา'บุก​ทวงถาม​ ป.ป.ช. ยื่นศาลถอดถอน​'ครม.เศรษฐา-อุ๊งอิ๊งค์'

‘สมชาย-ชาญชัย-ทนายนกเขา’บุก​ทวงถาม​ ป.ป.ช. ยื่นศาลถอดถอน​’ครม.เศรษฐา-อุ๊งอิ๊งค์’

วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 18.26 น.

“สมชาย-ชาญชัย-ทนายนกเขา”บุก​ทวงถาม​ ป.ป.ช.หลังพ้น​ 30 วัน​ ที่ยื่นขอส่งศาลรธน.ถอดถอน​”ครม.เศรษฐา-อุ๊งอิ๊งค์” พ่วง สส.-สว.ชุดปัจจุบันยกกระจาด​ ฐานกระทำผิดปรับงบ​’68 ส่วนที่ต้องใช้หนี้​มาแจกเงินหมื่น​ พร้อมส่งเอกสารงบเพิ่ม​ ​เพื่อเป็นบรรทัดฐานไม่ให้ผลาญ​งบไปแจก​เห็นแต่คะแนนเสียง

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต​ ​สส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม นายสมชาย แสวงการ อดีต สว.​และนายนิติธร ล้ำเหลือ นักเคลื่อนไหว เดินทางมาติดตาม​ หลัง​ยื่นคำร้องต่อ​ ป.ป.ช.ให้เป็นความปรากฏ เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย​ ถอดถอน​ คณะรัฐมนตรี​ สส.และ​ สว.​หลังพบว่าการกระทำผิดฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา​ 144 และมาตรา 88 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต​ กรณี​ตัดงบประมาณ 35,000 ล้านบาท ที่เป็นส่วนของการเงินชำระเงินต้นของเงินกู้​ ตามมาตรา 28 ของ​ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้แตะต้องเงินงบประมาณดังกล่าว จากนั้น​นำเงิน​ 3.5 หมื่นล้านบาท ที่ปรับรถมาแล้วไปเป็นงบกลางเพื่อใช้จ่ายในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เติมเงิน 10,000 บาท​ ผ่านดิจิตอลวอลเล็ต​ โดยยื่นร้องไปเมื่อวันที่​ 25 เมษายน​ ที่ผ่านมา​ ซึ่งวันนี้ครบ​ 30 ​​วันแล้ว​ จึงมาทวงถาม​

โดย นายชาญชัย​ กล่าวว่า​ วันนี้นอกจากมาติดตามคำร้องเดิมแล้ว​ ยังมาถามความเห็นของ 3 หน่วยงานสำคัญ คือ​ สำนักงานกฤษฎีกา​ , ธนาคารแห่งประเทศไทย และ​ ป.ป.ช.​เนื่องจากรัฐบาล​เคยส่งไปถามความคิดเห็น​ของทั้ง 3 หน่วยงานมาแล้ว​ ก่อนจะย้ำว่า​ มีการนำเงินงบประมาณ​ที่กำหนดไว้ใช้หนี้ ตามมาตรา 28 ในส่วนที่​ ธกส.กู้ยืมมา​ โดยการตัดงบตรงนี้ออกไป​ ธกส.จึงไม่มีเงินไปใช้หนี้​ ส่งผลให้เพดานเงินกู้เต็ม​ ธกส.ไม่สามารถกู้เงินเพิ่มเติมได้​ เพื่อมาแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ​ตอนนี้ได้​ เกษตรกร​จึงต้องรับกรรม​ เพราะโครงการนี้​ ถือเป็นการบริหารที่ผิดพลาด​ ส่งผลกระทบไปหมด​ ดังนั้น​ อยากจะให้ศาลรัฐธรรมนูญ​วินิจฉัย​เรื่องนี้เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้นักการเมืองรู้​ว่า​ ต้องทำอะไรที่ถูกต้อง​ เหตุการณ์ไปตีความข้อกฎหมายเองและเห็นแก่ประโยชน์พรรคพวก เห็นแต่คะแนนเสียงแล้วทำให้บ้านเมืองเสียหายต้องหยุด​ ก็หวังว่า​ ป.ป.ช.​และศาลรัฐธรรมนูญ​ จะทำหน้าที่ของตัวเอง​ เพื่อให้เป็นมาตรฐาน

“วันที่ 28 พฤษภาคม นี้ เขาจะพิจารณาเรื่องงบประมาณปี 2569 ถ้ากรณีแบบนี้ไม่ผิดปีหน้า ตัดได้อีกมากมายเลย ก็จะเอาเงินที่จะไว้ใช้หนี้ไปผลาญเล่นกับโครงการอื่นๆ ประเทศไทยจะพบกับหายนะและวินาศ​ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่รัฐบาลนี้กล้าทำ​ ผิดรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับตั้งแต่ปี 40 50 และ 60​ เขาสั่งไว้ห้ามทำ แต่พอมาถึงต้องการเอาเงินไปแจก เพื่อหาคะแนนเสียงอย่างเดียว วันนี้ก็มาอ้างว่าทรัมป์บ้ามาจนหยุดแจก”

ขณะที่ นายสมชาย​ กล่าวว่า วันนี้ครบ 1 เดือน​ จึงมาติดตามให้กำลังใจและนำเอกสารมายื่นเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการย้ำว่า มาตรา 144 สำคัญ ที่เขาห้ามตัดเงินใช้หนี้ มาใช้ในลักษณะอื่น และมีการกระทำการเป็นมติคณะรัฐมนตรีและมติคณะกรรมาธิการ เอาเงินส่วนนี้ไปแจก แล้วตอนนี้ก็เห็นชัดแล้วว่าการแจกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว เพราะเรามายื่น​ เขาจึงรู้ว่า​เขากระทำความผิด

– 006

Leave a comment