ตุรกีจ่อปรับกว่า 2,000 คนลุกขวางทางเดิน ก่อนเครื่องบินจอดที่เกต

ตุรกีจ่อปรับกว่า 2,000 คนลุกขวางทางเดิน ก่อนเครื่องบินจอดที่เกต

29 พ.ค. 2568 15:39 น.

ตุรกีจ่อปรับกว่า 2,000 คนลุกขวางทางเดิน ก่อนเครื่องบินจอดที่เกต

ผู้โดยสารที่เดินทางไปตุรกี ซึ่งปลดเข็มขัดนิรภัยและลุกยืนบนทางเดิน หรือเปิดช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ ก่อนที่เครื่องบินจะที่จอดที่เกตของสนามบิน มีสิทธิ์ถูกปรับตามกฎระเบียบใหม่ที่ออกโดยสำนักงานการบินพลเรือนของตุรกี

ภายใต้กฎระเบียบที่ปรับปรุงใหม่ สายการบินพาณิชย์ที่ให้บริการเที่ยวบินในตุรกีจะต้องแก้ไขมาตรฐานประกาศบนเที่ยวบิน โดยแจ้งให้ผู้โดยสารนั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยจนกว่าเครื่องบินจะถึงประตูขึ้นเครื่องหรือจุดแวะพักสุดท้ายอื่นๆ

ปัจจุบัน สายการบินจำเป็นต้องแจ้งเตือนว่าจะมีการบันทึกและรายงานการละเมิดขั้นตอนดังกล่าว ตามหนังสือเวียนที่ออกโดยสำนักงานการบินพลเรือนของตุรกี ประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเตือนผู้โดยสารว่าควรให้คนที่นั่งในแถวหน้าออกจากเครื่องก่อน

รายงานของสื่อตุรกีระบุว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎอาจถูกปรับสูงสุดถึง 70 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,290 บาท ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนฯ ไม่ได้ระบุจำนวนเงิน แต่ระบุว่าได้ปรับปรุงกฎระเบียบตามคำร้องเรียนของผู้โดยสารและการตรวจสอบเที่ยวบิน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการละเมิดความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น

สำนักงานการบินพลเรือนฯ กล่าวว่า “แม้จะมีการประกาศให้ผู้โดยสารทราบถึงกฎดังกล่าว แต่หลายคนก็ยังยืนขึ้นก่อนที่เครื่องบินจะถึงตำแหน่งจอดและก่อนที่สัญญาณรัดเข็มขัดนิรภัยจะดับลง พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและสัมภาระ ไม่สนใจความพึงพอใจและลำดับความสำคัญในการออกจากเครื่องบินของผู้โดยสารคนอื่นๆ”

ผู้โดยสารที่รีบลุกขึ้นและคว้าสิ่งของของตัวเองทันทีที่ไฟเตือนรัดเข็มขัดนิรภัยดับลง ซึ่งมักเรียกกันว่า “ผู้ที่รีบยืนทางเดิน” หรือแย่กว่านั้น ถือเป็นภัยต่อผู้โดยสารจำนวนมาก

หลายประเทศมีกฎระเบียบเพื่อควบคุมผู้โดยสารที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม และส่วนใหญ่มีกฎระเบียบที่บังคับให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำว่าเมื่อใดจึงจะรัดเข็มขัดนิรภัยได้ อย่างไรก็ตาม การถูกปรับเงินจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลังจากเครื่องลงจอดนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงพอที่จะดึงดูดความสนใจได้

กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนนี้ ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับคนที่ถูกปรับ หรือสายการบินที่บังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าวซึ่งรายงานผู้ละเมิดกฎ โดยตุรกีเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนทุกปี

ในสหรัฐฯ กฎระเบียบของสำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้โดยสารต้องรัดเข็มขัดนิรภัยให้แน่นหนาในขณะเคลื่อนที่ขึ้น ลง และในเวลาอื่นๆ ตามคำแนะนำของลูกเรือ การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยอาจส่งผลให้มีโทษทางแพ่งที่หนักหน่วง แต่รายงานที่ระบุว่าสำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ และหน่วยงานการบินอื่นๆ ลงโทษผู้โดยสารที่ไม่รัดเข็มขัดนิรภัยนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และหากมีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ก็มักจะเกิดพฤติกรรม “ไม่เหมาะสม” เพิ่มเติมตามมา

ตัวอย่างเช่น ในปี 2021 สำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ เสนอให้ปรับผู้โดยสารสายการบิน Endeavor Airlines เป็นเงิน 14,000 ดอลลาร์ เนื่องจากผู้โดยสารปลดเข็มขัดนิรภัยในขณะที่มีไฟสัญญาณ “รัดเข็มขัดนิรภัย” และยังปฏิเสธที่จะสวมหน้ากากอย่างถูกต้อง แม้ว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะแจ้งหลายครั้งแล้วก็ตาม

หน่วยงานการบินทั่วโลกรายงานว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากผู้โดยสารที่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามนโยบายการสวมหน้ากาก

เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2021 สำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ (FAA) จึงได้นำนโยบาย “ไม่ยอมรับโดยสิ้นเชิง” มาใช้ โดยการสั่งปรับแทนการออกจดหมายเตือนผู้โดยสารที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมหรือทางเลือกในการให้คำปรึกษาเพื่อแก้ไข ปัจจุบัน ผู้โดยสารที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมอาจต้องเผชิญกับค่าปรับสูงถึง 37,000 ดอลลาร์ต่อเหตุการณ์ รวมทั้งอาจถูกดำเนินคดีอาญา

สายการบิน หน่วยงานกำกับดูแลการบิน และองค์กรด้านความปลอดภัยต่างแสดงจุดยืนมาอย่างยาวนานถึงความสำคัญของการนั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยในขณะที่เครื่องบินกำลังเคลื่อนที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่หยุดชะงัก เช่น สภาพอากาศแปรปรวน โดยหลังจากเครื่องบินลงจอด ผู้โดยสารมีความเสี่ยงที่จะล้มหรือได้รับบาดเจ็บอื่นๆ หากยืนและพยายามเคลื่อนไหวในขณะที่เครื่องบินกำลังเคลื่อนที่ไปจอดที่ประตูขึ้นเครื่อง.

ที่มา AP

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign

Leave a comment